ศาลเพิ่มโทษ “บุญทรง” คดีทุจริตขายข้าวจีทูจีอีก 6 ปี รวมจำคุก 48 ปี

ศาลเพิ่มโทษ “บุญทรง” คดีทุจริตขายข้าวจีทูจีอีก 6 ปี รวมจำคุก 48 ปี

( บุญทรง เตริยาภิรมย์ / แฟ้มภาพ)

วันที่ 6 ก.ย. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษา (ชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์) ในคดีทุจริตซื้อขายข้าวรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี

ในส่วนจำเลยที่ 2 คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ มีคำพิพากษา เพิ่มโทษอีก 6 ปี รวมจำคุก 48 ปี ซึ่งนายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ บุตรชายนายบุญทรง กล่าวว่า หลังคำพิพากษาคุณพ่อบอกว่า ลูกต้องเข้มแข็งนะ โดยสุขภาพของคุณพ่อเข้ารีบการผ่าตัดคอไปแล้ว ยังต้องเข้ารับการผ่าตัดหลังเพื่อรักษาอาการชาที่ขาต่อไป


.
ส่วนหนึ่งของคำพิพากษาระบุว่า สัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ G to G กับ บ.กว่างตงฯ และ บ.ห่ายหนาน ไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ที่กำหนดให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการเจรจาซื้อขายข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลและข้าวในสต็อกของรัฐบาลกับผู้แทนหน่วยงานของรัฐบาล
.
สัญญาซื้อขายข้าวเกิดจากการกระทำทุจริต โดยจำเลยที่ 1 (นายภูมิ สาระผลอดีต รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว) และจำเลยที่ 2 (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุ กก.พิจารณาระบายข้าว) เห็นชอบให้ทำและแก้ไขสัญญาซื้อขาย ตามการดำเนินการของจำเลยที่ 4-6 (นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ , นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ , นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ)
.
จำเลยที่ 1-6 กำหนดเงื่อนไขให้ไม่ต้องส่งข้าวตามสัญญาไปประเทศจีน เป็นผลให้เกิดการนำข้าวไปเวียนขายให้กับผู้ค้าข้าวในประเทศและรับประโยชน์ที่เกิดจากส่วนต่างราคาตามสัญญาซื้อขายข้าวกับราคาตลาดไปเป็นของตนโดยทุจริต ซึ่งเป็นการร่วมกันทุจริตระหว่าง นักการเมือง ข้าราชการประจำ และนักธุรกิจ

สำหรับคดีนี้ ก่อนจะถึงชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.60 ให้จำคุกตั้งแต่ 4-48 ปีกลุ่มนักการเมืองที่เป็นรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงกรมการค้าต่างประเทศ รวมทั้งเอกชนกลุ่มนักค้าข้าว ที่ตกเป็นจำเลยรวม 15 ราย โดยนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ถูกจำคุก 36 ปี, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ 42 ปี (ก่อนจะเพิ่มอีก 6 ปี) , นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 40 ปี, นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 32 ปี, นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ 24 ปี

และปรับ 3 ราย คือ “บจก.สยามอินดิก้า” จำเลยที่ 10 เป็นเงิน 1 ล้านบาท , “บจก.กีธา พร็อพเพอร์ตี้” จำเลยที่ 20 จำนวน 25,000 บาท และ น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร บุตรสาวเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 21 จำนวน 40,000 บาท กับให้ บจก.สยามอินดิก้า-น.ส.ธันยพร ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกับกระทรวงการคลัง จำนวน 1,294,109,764.80 บาทด้วย

นอกจากนี้ให้ บจก.สยามอินดิก้า จำเลยที่ 10 , เสี่ยเปี๋ยง นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ จำเลยที่ 14 และนายนิมล หรือโจ รักดี คนสนิทเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 15 ร่วมกันชดใช้กระทรวงการคลังด้วย 16,912,128,273.66 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่รับมอบข้าวตามสัญญาแต่ละฉบับ

พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ

ทั้งนี้มีจำเลยที่หลบหนีคดี 2 ราย คือ จำเลยที่ 3 พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการนายบุญทรง ถูกจำคุก 72 ปี รวมทุกกระทงความผิดให้จำคุก 50 ปี และ จำเลยที่ 16 นายสุธี เชื่อมไธสง คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง ถูกจำคุก 32 ปี

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง