ผู้นำสหราชอาณาจักรประกาศความสำเร็จในการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป ไม่กี่วันหลังครบกำหนดผ่อนผันจากกระบวนการเบร็กซิทภายในสิ้นปีนี้
วันที่ 24 ธ.ค. 2563 เว็บไซต์บีบีซี รายงานการแถลงข่าวของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่ออกมาเปิดเผยว่า สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปสามารถเจรจาข้อตกลงการค้าสำเร็จ
การเห็นชอบข้อตกลงในครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อนสิ้นปี ซึ่งเป็นเส้นตายหมดเวลาการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป หลังสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสหภาพยุโรป ซึ่เรียกกันว่า ‘เบร็กซิท’ (Brexit) ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายกังวลว่า ถ้าสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปไม่สามารถหาข้อตกลงการค้ากันได้ แนวทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายจะต้องเป็นไปตามกรอบขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งจะสร้างความโกลาหลอย่างหนัก จนทำให้สินค้าหลายชนิดขาดแคลนในสหราชอาณาจักร

นายบอริส จอห์นสัน แถลงข่าวถึงการเห็นชอบข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรปว่า ข้อตกลงการค้านี้มีมูลค่ามหาศาลที่สุด คือประมาณ 660,000 ล้านปอนด์ หรือราว 26.8 ล้านล้านบาทต่อปี เช่นเดียวกับแหล่งข่าวในรัฐบาลอังกฤษที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรปนี้จะเป็นข่าวดีให้กับทุกธุรกิจและทุกครอบครัวในสหราชอาณาจักร เนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่ของข้อตกลงยึดตามสิทธิ์ที่สหราชอาณาจักรเคยได้รับจากสหภาพยุโรป
ขณะที่อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นคู่เจรจาฝ่ายสหภาพยุโรป ระบุว่า การเจรจาที่แสนยาวนานได้ข้อยุติแล้ว พร้อมย้ำว่าข้อตกลงดังกล่าวมีความยุติธรรม เป็นธรรม และสมเหตุสมผลต่อทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตามทั้งสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปต้องนำข้อตกลงกลับไปให้ฝ่ายของตนเองเห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งความเคลื่อนไหวในสหราชอาณาจักรหลังจากนี้คือการที่รัฐสภาจะต้องลงมติผ่านข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งคาดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเสียงส่วนใหญ่เป็นของพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน
แต่หลายฝ่ายกังวลถึงการเห็นชอบจากสหภาพยุโรป ที่ต้องผ่านการยินยอมจากผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ชาติ ก่อนจะนำเข้าสู่รัฐสภายุโรป ซึ่งกระบวนการเหล่านี้อาจไม่ทันสิ้นปี เพราะนอกจากจะติดวันหยุดยาวช่วงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ยังเผชิญอุปสรรคจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย
กระบวนการที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือเบร็กซิท เริ่มต้นจากการทำประชามติเมื่อเดือนมิถุนายน 2559 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ผลการลงประชามติชี้ว่า ผู้มีสิทธิ์ในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป โดยกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปดำเนินเรื่อยมา เพื่อให้มีความชัดเจนว่า ข้อตกลงการค้า มาตรการทางภาษี ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดน ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปควรเป็นไปในรูปแบบใด หลังจากทั้งสองฝ่ายแยกตัวออกจากกัน










