ผู้บริหารไฟเซอร์ชี้ มีบางประเทศที่ไม่ได้เลือกวัคซีนของบริษัทในตอนแรก กลับมาติดต่อขอซื้อในภายหลัง
วันที่ 8 พ.ค. 2564 อัลเบิร์ต เบอร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ (Pfizer) ออกมาอธิบายถึงความพยายามของบริษัทในการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียมตั้งแต่กลางปีที่แล้ว พร้อมทั้งชี้ว่าการยกเว้นสิทธิบัตรของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะเป็นผลเสียต่อการพัฒนาในอนาคต
นายเบอร์ลาเปิดเผยผ่านบัญชี LinkedIn ของตนว่า ไฟเซอร์ตัดสินใจเสนอขายวัคซีนตั้งแต่มิ.ย. 2563 ผ่านการตั้งราคาที่เป็นธรรมสำหรับแต่ละชาติ โดยกลุ่มประเทศร่ำรวยจะต้องจ่ายในราคาของ 1 มื้ออาหาร และต้องฉีดให้ประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย กลุ่มประเทศรายได้ปานกลางจะได้สิทธิ์ซื้อในราคาเพียงครึ่งเดียว และกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ จะสามารถซื้อได้ในราคาต้นทุน
แม้ไฟเซอร์ได้ประกาศไปว่าจะส่งมอบวัคซีนให้ทั่วโลกได้ 2,500 ล้านโดสในปี 2564 แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป้าหมายที่ตั้งไว้ภายในบริษัทอยู่ที่ 3,000 ล้านโดส วัคซีนเหล่านี้ผลิตขึ้นมาสำหรับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะชาติร่ำรวยหรือยากจน ที่ผ่านมาไฟเซอร์ทำข้อตกลงไปแล้วกับ 116 ประเทศ และกำลังต่อรองในขั้นท้ายๆ กับอีกหลายประเทศ โดยมียอดสั่งจองแล้ว 2,700 ล้านโดสในปีนี้ และคาดว่า 40% หรือกว่า 1,000 ล้านโดส จะถูกส่งไปที่ประเทศรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า วัคซีนของไฟเซอร์ที่ส่งมอบไปแล้ว 450 ล้านโดส ส่วนใหญ่ไปอยู่กับประเทศรายได้สูง นายเบอร์ลาชี้แจงว่า ไฟเซอร์ได้ติดต่อไปทุกประเทศให้สั่งจองวัคซีนแล้ว เพื่อที่บริษัทจะได้จัดสรรจำนวนโดสอย่างเหมาะสม แต่ในความเป็นจริง มีเพียงประเทศรายได้สูงที่สั่งจองไว้เป็นส่วนใหญ่
เมื่อเป็นเช่นนั้น นายเบอร์ลาจึงรู้สึกกังวล และได้พยายามติดต่อไปยังผู้นำของประเทศรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ ทั้งทางจดหมาย โทรศัพท์ และส่งข้อความ เพื่อกระตุ้นให้ประเทศเหล่านี้สั่งจองเอาไว้ เนื่องจากวัคซีนมีจำนวนจำกัด
อย่างไรก็ดี ประเทศส่วนใหญ่ตัดสินใจสั่งจองวัคซีนของไฟเซอร์และวัคซีนจากเจ้าอื่นๆ เนื่องจากเทคโนโลยี mRNA ยังไม่ได้รับการพิสูจน์เพียงพอ ณ เวลานั้น บางประเทศไม่แม้กระทั่งอนุมัติวัคซีนด้วยซ้ำ
แต่เมื่อผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นเกิดปัญหา ไม่สามารถส่งมอบได้ทันตามที่เคยบอกไว้ ทำให้หลายประเทศที่ไม่ได้เลือกวัคซีนของไฟเซอร์ในตอนแรก พยายามติดต่อกลับมาอีกครั้ง โชคดีที่ไฟเซอร์เพิ่มกำลังการผลิตเอาไว้ก่อน จึงสามารถตกลงเซ็นสัญญากับประเทศเหล่านั้นได้
ในส่วนของรายงานที่เผยว่า สหรัฐฯ อาจยกเว้นสิทธิบัตรของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อความเท่าเทียมทางวัคซีนนั้น นายเบอร์ลาให้ความเห็นว่า อาจส่งผลให้ผู้พัฒนารายอื่นๆ ไม่กล้าที่จะเสี่ยงลงทุนกับการวิจัยและพัฒนาอีกต่อไป อย่างไฟเซอร์เองมีการลงทุนกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (62,000 ล้านบาท) โดยไม่รู้เลยว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ และเขาเองก็ไม่แน่ใจว่า นักลงทุนจะยอมลงทุนกับบริษัทเล็กๆ หรือไม่ หากทรัพย์สินทางปัญญาของพวกเขาไม่ได้รับการคุ้มครอง










