
วันที่ 24 ต.ค.62 สื่อต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์การชุมนุมประท้วงกดดันรัฐบาลยังรุนแรงต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.62 โดยในวันนี้ (24 ต.ค.62) มีผู้ชุมนุมจำนวนมากรวมตัวกันตามท้องถนนในกรุงซานติอาโก โดยทางผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน-นักศึกษา ได้ออกมากดดันให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเพิ่มค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินทึกเส้นทางในกรุงซานติอาโกสูงถึง 830 เปโซชิลี หรือราว 35 บาท ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าต้นทุนพลังงานนั้นสูงขึ้น

ประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา
โดยตลอดการชุมนุมประท้วงที่กินเวลามานานกว่า 5 วันนั้นมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบ่อยครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม จนเหตุการณืทวีความรุนแรงถึงขั้นจราจล ด้านฝ่ายผู้ชุมนุมได้มีการจุดไฟเผาร้านค้าริมถนน รวมถึงขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ เบื้องต้นยอดผู้เสียชีวิตจากกราชุมนุมพุ่งสูงถึง 18 รายแล้ว ซึ่งแม้ว่าทางรัฐบาลชิลีนำโดยประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา จะใช้มาตรการเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ของกรุงซานติอาโก รวมถึงสัญญาว่าจะเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคมแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลง









