วันที่ 4 พ.ค. สถานีโทรทัศน์ CGTN ของทางการจีนรายงานว่า จากการเปิดเผยของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว พบว่าชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วง 3 วันแรกของวันหยุดยาวในช่วงวันแรงงาน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ถึงเกือบ 85 ล้านคน ทำให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 36,060 ล้านหยวน หรือราว 1.4 แสนล้านบาท
ชาวจีนจำนวนมากเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงวันแรงงาน ท่ามกลางมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยังมีโอกาสที่จะกลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ได้
เฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียว ชาวจีนออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศถึงกว่า 30.94 ล้านคน ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับวันเสาร์
ก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมของจีนคาดการณ์ว่า ชาวจีนจะออกเดินทางท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 23.36 ล้านคนในช่วงวันหยุดวันแรงงาน หรือสูงกว่าวันหยุดช่วงเทศกาลเช็งเม้งเมื่อเดือนเมษายน ถึง 19.9 ล้านคน ขณะที่วันหยุดยาวช่วงวันแรงงานเมื่อปีที่แล้ว ชาวจีนออกเดินทางท่องเที่ยวถึง 195 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 117,700 ล้านหยวน หรือกว่า 4.7 แสนล้านบาท
ส่วนที่กรุงปักกิ่ง ตามสถานที่ท่องเที่ยวกว่า 1,090 แห่ง มีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วง 2 วันแรกถึงกว่า 1.67 ล้านคน ที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้คนออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวในวันแรงงาน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-5 พฤษภาคม
สำนักงานการท่องเที่ยวหูเป่ยระบุว่า สถานที่ท่องเที่ยว 22 แห่ง ที่เปิดให้บริการอีกครั้ง มีนักท่องเที่ยวกว่า 109,664 คน มื่อวันที่ 1 พ.ค. ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 87 ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 95 เหลือ 6.79 ล้านหยวน
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้สั่งการให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยว ให้อยู่ที่ราวร้อยละ 30 ของความสามารถในการรองรับทั้งหมด ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวในระดับ “เกรด เอ” กว่าร้อยละ 70 ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมแล้ว
