จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 30,000 คนสองวันติดต่อกัน ทุบสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง หลายเมืองทั่วประเทศเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ล็อกดาวน์อีกครั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 32,695 คน เพิ่มขึ้นจาก 31,444 คนในวันพุธ (23 พ.ย.) แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อแบบแสดงอาการ 3,041 คน และไม่แสดงอาการจำนวน 29,654 คน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบในวันพฤหัสบดี ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ในประเทศต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกัน จากที่เคยบันทึกไว้เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งจีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 29,317 คน
การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีนเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะนครกว่างโจว เมืองเศรษฐกิจสำคัญทางตอนใต้ของประเทศ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 7,500 คน ขณะที่เมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 6,000 คน ส่วนกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 1,800 คน นอกจากนี้ ยังพบการระบาดที่เมืองเฉิงตู จี่หนาน หลานโจว ซีอาน และอู่ฮั่น ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นหลักร้อยคนต่อวัน
สถานการณ์การระบาดครั้งล่าสุดในจีนถูกมองว่าเป็นบททดสอบสำคัญที่มาท้าทายยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน ซึ่งมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด ควบคุมการเดินทาง รุกตรวจหาเชื้อเป็นวงกว้าง และกำหนดให้ต้องมีการกักตัวเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตจนสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมาก
แม้รัฐบาลจีนจะส่งสัญญาณการผ่อนปรนนโยบายโควิดเป็นศูนย์ จากเดิมที่มีการสั่งล็อกดาวน์พื้นที่ทั่วทั้งเมืองเมื่อพบการระบาด มาเป็นการล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่เมื่อไม่นานมานี้ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ทางการเริ่มหันกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มในหลายเมืองอีกครั้งเพื่อสกัดการระบาดให้เร็วที่สุด
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 พ.ย.) หลิว เสี่ยวเฟิง รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเทศบาลกรุงปักกิ่งได้ออกมายอมรับว่า กรุงปักกิ่งกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 และเวลานี้เป็นช่วงเวลาวิกฤตและยากที่สุดในการต่อสู้กับการระบาด
โดยรัฐบาลท้องถิ่นกรุงปักกิ่งได้ตัดสินใจสั่งปิดห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน สวนสาธารณะ อพาร์ตเมนต์ รวมถึงโรงเรียนหลายแห่งภายในเมือง อีกทั้งยังกลับมาเปิดโรงพยาบาลชั่วคราวขึ้นที่ศูนย์แสดงนิทรรศการอีกครั้ง พร้อมทั้งออกคำสั่งยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าและออกจากเมืองอย่างเข้มงวด
ขณะเดียวกัน ที่เมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิต iPhone ให้กับแอปเปิลรายใหญ่ที่สุด ได้มีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วทั้งเมืองเป็นเวลา 5 วัน ขอความร่วมมือประชาชนงดออกนอกเคหสถานหากไม่มีความจำเป็น โดยหากจะเดินทางออกจากที่ตั้งจะต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าหน้าที่เฉพาะตามกรณี
ที่มา: Reuters, The Guardian, Bloomberg
