
หลังจากที่โบราณสถานในเมืองบามิยัน เคยตกอยู่ในช่วงที่ต้องเผชิญภัยคุกคามจากกลุ่มตาลีบันเมื่อปี 2001 ก่อนที่จะนำเมื่อซึ่งความสูญเสียทางประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกเศร้าสลด เมื่อกลุ่มตาลีบันได้ลงมือทำการระเบิด “พระพุทธรูปแห่งบามิยัน” (Bhuddhas of Bamiyan) อันเลื่องชื่อ ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสศตวรรษที่ 6 แม้ในปัจจุบันแหล่งโบราณสถานในเมืองบามิยันจะปลอดภัยจากกลุ่มก่อการร้าย แต่อีกหนึ่งภัยเงียบที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอากาศที่แห้งจัดในฤดูร้อน และความชื้นอันเกิดจากการละลายของหิมะ ส่งผลให้โครงสร้างของโบราณสถานถูกกัดกร่อนรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ด้านนายPhilippe Marquis ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีฝรั่งเศสในอัฟกานิสถานกล่าวว่า อัฟกานิสถานมีความเปราะบางทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพืชที่ปกคลุมหน้าดินลดปริมาณลงอย่างมาก

ด้านนักโบราณคดีท้องถิ่นจากแผนกโบราณคดีของมหาวิทยาลัยบามิยันยอมรับว่า โบราณสถานในเมืองอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมอย่างต่อเนื่อง แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้โบราณสถานเสื่อมโทรม แต่ยังมีปัจจัยอย่างการขาดงบประมาณสนับสนุนในการดูแลโบราณสถานที่เพียงพอ และเหล่าหัวขโมยที่เข้ามาปล้นของในโบราณสถาน

ทั้งนี้ทางนายPhilippe Marquis ชี้ว่า การเข้ามาดูแลรักษาโบราณสถานเหล่านี้ให้รอดพ้นจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่มหาศาลสำหรับรัฐบาลอัฟกัน โดยทางมหาวิทยาลัยนอเตอร์เดม (University of Notre Dame) ได้จัดทำ Global Adaptation Initiative เพื่อให้คะแนนประเทศที่มีความสามารถในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปรากฎว่าอัฟกานิสถานถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 173 จากทั้งหมด 181 ประเทศทั่วโลก









