จากการประท้วงที่เกิดขึ้นที่สหรัฐฯ กลุ่มผู้ประท้วงยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้มีการทำลายรูปปั้นบุคคลในอดีตมากมาย ล่าสุดรูปปั้นของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) นักสำรวจผู้ค้นพบอเมริกาก็ถูกทำลายด้วยเช่นกัน
รูปปั้นของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) ทั้งสองแห่งตั้งอยู่ที่เวอจิเนียและบอสตันถูกทำลาย เริ่มจากเวอจิเนียกลุ่มผู้ประท้วงใช้เชือกดึงรูปปั้น พ่นเสปรย์ใส่ จุดไฟเผาและเอาไปโยนทะเลสาบ ส่วนที่บอสตัน ผู้ประท้วงก็ไปตัดคอรูปปั้นของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) เช่นกัน
สาเหตุที่ผู้ประท้วงต้องทำลายรูปปั้นของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) เพราะมองว่า ทำไมผู้คนจึงต้องยกย่องและเชิดชูว่าคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) เป็นผู้ก่อตั้งอเมริกา ในเมื่อเดิมทีก่อนที่เขาจะเข้ามาพื้นที่ตรงนั้นมีชนพื้นเมืองอาศัยอยู่ก่อนแล้ว แต่หลังจากคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) มาค้นพบกลับเอาคนผิวขาวมาอยู่แทนและเข่นฆ่าคนพื้นเมือง รวมทั้งตอนสมัยที่สร้างอเมริกาใหม่ๆ ก็เอาคนผิวดำมาเป็นทาสใช้แรงงานในการสร้างประเทศ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รูปปั้นของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) ถูกทำลาย แต่ก่อนหน้านี้ ในปี 2004 เคยมีคนไปพ่นสีที่รูปปั้นของเขาว่า “ฆาตกร” (Murderer) ซึ่งผู้ประท้วงมองว่า รูปปั้นของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) เป็นสัญลักษณ์ของการ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”ด้วย
นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้วงยังมีการเรียกร้องให้ “ชำระประวัติศาสตร์” เพื่อให้คนในสังคมปัจจุบันได้เรียนรู้ว่า ที่บุคคลในอดีตถูกยกย่องมาจนถึงปัจจุบันมีผลกระทบต่อชีวิตคนจำนวนมหาศาลอย่างไร









