ทีมนักวิจัยในเยอรมนีเปิดเผยการค้นพบวิธีแก้ปัญหาผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หวังเป็นกุญแจยับยั้งอาการเลือดแข็งตัวหลังฉีดวัคซีน 2 ชนิดนี้
วันที่ 27 พ.ค. 2564 เว็บไซต์ The Guardian รายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากประเทศเยอรมนี นำโดยศาสตราจารย์รอล์ฟ มาร์ชาเลค จากมหาวิทยาลัยเกอเทอแห่งแฟรงก์เฟิร์ต ประกาศพบวิธีแก้ปัญหาผลข้างเคียงเลือดแข็งตัว ที่พบจากการใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และวัคซีนจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) แล้ว
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากเยอรมนีระบุว่า ปัญหาผลข้างเคียงเลือดแข็งตัวที่พบจากการใช้วัคซีน 2 ชนิดดังกล่าว เป็นผลมาจากการพัฒนาวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีอะดีโนไวรัส (adenovirus) คือการใช้ไวรัสไข้หวัดธรรมดาเป็นพาหะ ซึ่งแตกต่างจากการใช้เชื้อตายแบบวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) หรือเทคโนโลยี mRNA ที่พัฒนาในระดับรหัสพันธุกรรมในวัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna)
งานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ จะมีกระบวนการที่เยื่อหุ้มโปรตีนของไวรัสพาหะไปเชื่อมต่อหรือแยกตัวกับนิวเคลียสของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งจุดนี้มีแนวโน้มทำให้เกิดโปรตีนกลายพันธุ์ เป็นสาเหตุต่ออาการเลือดแข็งตัวตามมา
การค้นพบครั้งนี้สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะหากเป็นไปตามผลการวิจัยจริง ก็จะเปิดทางให้ผู้ผลิตวัคซีนทั้งสองบริษัทหาแนวทางแก้ไข เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงเลือดแข็งตัว ซึ่งศาสตราจารย์มาร์ชาเลคระบุว่า ทีมวิจัยได้พูดคุยกับบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันแล้ว แต่ยังไม่เริ่มเจรจากับแอสตร้าเซนเนก้า
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจำนวนหนึ่งยังตั้งคำถามถึงการค้นพบของทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมัน โดยมองว่านี่เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานที่ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดมากกว่านี้
ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในยุโรปยืนยันตรงกันว่า การใช้งานวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอาจทำให้เกิดอาการเลือดแข็งตัวในสัดส่วนที่ต่ำมาก โดยในอังกฤษพบผู้ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีอาการเลือดแข็งตัวอยู่ที่ 4 คน ต่อผู้ได้รับวัคซีน 1 ล้านคน แต่ผลข้างเคียงดังกล่าวก็ทำให้อังกฤษเปิดทางให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนอายุต่ำกว่า 30 ปี สามารถเลือกวัคซีนโควิด-19 ได้ ตราบใดที่มีวัคซีนเพียงพอและไม่ทำให้การได้รับวัคซีนช้าลง
ส่วนอีกหลายประเทศ เช่นเยอรมนี สเปน อิตาลี ระงับการใช้งานวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับคนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี เช่นเดียวกับฝรั่งเศส หรือออสเตรเลีย ที่ออกข้อแนะนำการใช้ในลักษณะเดียวกันเพื่อเป็นการปลอดภัยไว้ก่อน
ขณะที่วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดฉีดเข็มเดียว ใช้เทคโนโลยีการพัฒนาแบบเดียวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ก็พบผลข้างเคียงเลือดแข็งตัวจากการใช้จริงในสหรัฐฯ จนต้องระงับการใช้งานชั่วคราวเป็นเวลา 11 วัน ก่อนจะกลับมาให้ใช้ได้อีกครั้งเมื่อปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
