เยอรมนีแนะนำผสมยี่ห้อวัคซีน ให้ประชาชนที่ได้รับ ‘แอสตร้าฯ’ เข็มแรก ฉีดวัคซีน ‘ไฟเซอร์-โมเดอร์นา’ เข็มสอง

เยอรมนีออกคำแนะนำผสมยี่ห้อวัคซีนอย่างเป็นทางการ ย้ำให้ผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก รับวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์-โมเดอร์นาเป็นเข็มที่สอง ชี้ผลวิจัยชัดสลับยี่ห้อวัคซีนมีประสิทธิภาพสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายสูงกว่า

วันที่ 3 ก.ค. 2564 เว็บไซต์ CNN รายงานอ้างคำแนะนำของคณะกรรมการวัคซีนเยอรมันเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) ว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เป็นเข็มแรก ควรรับวัคซีนชนิด mRNA หรือวัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna) เป็นเข็มที่สอง

คณะกรรมการวัคซีนเยอรมันยืนยันว่า จากผลการศึกษาในตอนนี้พบว่า การฉีดวัคซีนผสมมีประสิทธิภาพสร้างภูมิคุ้มกันในระดับที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยซาร์ลันด์ในเยอรมนีเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การฉีดวัคซีนคนละยี่ห้อมีประสิทธิภาพกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้สูงกว่าการฉีดยี่ห้อเดียวกันเป็นเข็มที่สอง

สอดคล้องกับผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดที่ชี้ว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ สร้างภูมิคุ้มกันได้ดีใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม

เยอรมนีเป็นประเทศแรกๆ ที่ออกคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบผสมระหว่างวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับวัคซีนชนิด mRNA อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เป็นหนึ่งในผู้ที่รับวัคซีนผสม ฉีดเข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วยเข็มสองของโมเดอร์นาไปแล้ว

โดยเยอรมนีรับรองการใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินให้กับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งเดือน เม.ย. ทางการเยอรมนีปรับคำแนะนำให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป หลังพบความเสี่ยงอาการเลือดแข็งตัว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิง อย่างไรก็ตามคำแนะนำล่าสุด ทางการเยอรมนีเปิดทางให้คนทุกช่วงอายุใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าได้ โดยต้องขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ และเพิ่มคำแนะนำล่าสุดให้สามารถรับวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่สองหลังรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

ปัจจุบันเยอรมนีกำลังจับตาสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ยุโรปอาจจะกลับมาระบาดระลอกใหม่ในเดือน ส.ค. นี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา