องค์การอนามัยโลกยืนยัน โควิดที่พบในเวียดนาม ไม่ใช่สายพันธุ์ลูกผสม

องค์การอนามัยโลกยืนยัน โควิดที่พบในเวียดนาม ไม่ใช่สายพันธุ์ลูกผสม

COVID-19

ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำเวียดนามยืนยันว่า ไวรัสโควิด-19 ที่พบในเวียดนามและถูกสันนิษฐานว่าเป็นไวรัสโควิดลูกผสม อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย แต่มีการกลายพันธุ์เพิ่ม

วันที่ 3 มิ.ย. 2564 เว็บไซต์ Nikkei Asia สื่อญี่ปุ่น รายงานอ้างการสัมภาษณ์นายกีดอง ปัค ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศเวียดนาม ที่ยืนยันว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่พบในเวียดนาม และรัฐบาลเวียดนามระบุว่า อาจเป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่างไวรัสโควิดสายพันธุ์อัลฟา ที่พบครั้งแรกในอังกฤษ กับสายพันธุ์เดลตา ที่พบครั้งแรกในอินเดีย อาจไม่ใช่สายพันธุ์ลูกผสมตามที่รัฐบาลเวียดนามตั้งสมมุติฐาน

ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำเวียดนามระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่า ไวรัสดังกล่าว น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ที่มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติม โดยสายพันธุ์ที่พบนี้ยังไม่มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังจากองค์การอนามัยโลกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ผู้แทนองค์การอนามัยโลกย้ำว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา มีความอันตรายอยู่แล้ว เนื่องจากมีอัตราการแพร่เชื้อเร็วมาก ขณะเดียวกันอัตราการติดเชื้ออยู่ในเกณฑ์สูง

สำหรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกล่าสุดในเวียดนาม ส่งผลกระทบต่อโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งที่ต้องระงับการผลิตชั่วคราว โดยมีบางโรงงานเพิ่งกลับมาเปิดอีกครั้ง หลังคนงานเริ่มได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายแสดงความกังวล เนื่องจากเวียดนามสั่งจองวัคซีนโควิด-19 ในจำนวนที่จำกัด ทำให้การกระจายวัคซีนอาจไม่ทั่วถึง ซึ่งผู้แทนองค์การอนามัยโลกยืนยันว่า การที่เวียดนามเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ (COVAX) อาจมีส่วนช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แม้ในช่วงที่ผ่านมาโครงการโคแวกซ์ก็ประสบปัญหาไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ตามแผน ผลจากการระงับส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศอินเดีย

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
องค์การอนามัยโลกยืนยัน โควิดที่พบในเวียดนาม ไม่ใช่สายพันธุ์ลูกผสม