รู้ไหมว่า 99.7% ของครัวเรือนไทยมีหนี้ และหนึ่งในหนี้ที่พบมากที่สุดก็คือ ‘หนี้บัตรเครดิต’ ที่มักจะเริ่มจากการใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ แต่สะสมไปเรื่อยๆ
จนกลายเป็นภาระก้อนใหญ่ โดยเฉพาะถ้าใช้บัตรเครดิตแบบไม่ระวัง เช่น จ่ายขั้นต่ำบ่อยๆ หรือจ่ายช้าแม้เพียงเดือนเดียว ก็อาจทำให้ประวัติทางการเงินหรือ ‘เครดิตบูโร’ ของคุณเสียได้โดยไม่รู้ตัว
เมื่อเครดิตบูโรเสีย ผลกระทบจะตามมาแทบทุกมิติของชีวิตทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือแม้แต่สมัครบัตรเครดิตใหม่ ก็มีโอกาสถูกปฏิเสธ เพราะธนาคารจะตรวจสอบเครดิตบูโรเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือก่อนอนุมัติสินเชื่อเสมอ
ซึ่งเครดิตบูโรคือฐานข้อมูลที่รวบรวมประวัติการกู้เงินและการชำระหนี้จากทุกสถาบันการเงิน หากค้างชำระเกิน 90 วัน ข้อมูลนี้จะถูกบันทึกไว้ในระบบ และแม้จะเคลียร์หนี้หมดแล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ในระบบต่อไปอีก 3–5 ปี ซึ่งส่งผลต่อการขอสินเชื่อใหม่ในอนาคตได้
คู่มือ CardX Fin Book : เพื่อคนฉลาดใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่า ไม่เป็นหนี้ ตอนที่ 2 ได้ให้แนวทางในการใช้บัตรอย่างมีสติ พร้อมวิธีรีเช็กตัวเองแบบง่ายๆ
[ เช็คลิสต์ 10 ข้อไม่ให้เกิดหนี้ ]
1.วางแผนค่าใช้จ่ายรายเดือน จดรายรับ รายจ่าย และยอดหนี้ของตัวเองไว้ทั้งหมด
2 ชำระหนี้บัตรเครดิตตรงวันครบกำหนดชำระ
- ชำระเต็มจำนวนตามยอดเรียกเก็บอย่างสม่ำเสมอ
4. ไม่เคยชำระค่าบัตรเครเครดิตแบบขั้นต่ำเลย
- ไม่กดเงินสดจากบัตรเครดิต
- เลือกใช้บัตรที่มีไลฟ์สไตล์ และโปรโมชันเหมาะสมกับตัวเอง
7.ตรวจสอบโปรโมชันจากบัตรเครดิตก่อนใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
- มีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน
- ยอดหนี้ไม่เกิน 45% ของรายได้ในแต่ละเดือน
- มีสติทุกครั้งที่รูดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
[ จุดสังเกตตัวเองก่อนเป็นหนี้เสีย ]
สัญญาณอันตรายของคนที่กำลังเสี่ยงเป็นหนี้เสียมักมาแบบเงียบๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
หนี้เสีย คือ หนี้ที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด โดยเฉพาะหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน ทำให้ถูกบันทึกว่า ‘ผิดนัดชำระ’ และส่งผลเสียต่อประวัติเครดิต
ถ้าใครเริ่มสงสัยว่าตัวเองกำลังเสี่ยงจะเป็นหนี้เสียหรือเปล่าให้ลองสังเกตตัวเองจาก 5 ข้อ ดังนี้
- จำยอดหนี้ของตัวเองไม่ได้ เน้นรูดบัตรไม่เน้นจำยอดหนี้ พอรู้ตัวอีกทียอดบัตรเครดิตก็พุ่งสูงเกินงบประมาณไปไกลแล้ว
- ไม่มีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน เงินเข้าไว ออกไว ไม่มีเงินสำรองในบัญชี เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแล้วกลับมาดูในบัญชีกลับไม่มีเงินสำรองเพียงพอในการใช้จ่าย
- ยอดหนี้สูงเกิน 45% ของรายได้ นี่เป็นสัญญาณอันตรายที่แสดงว่ากำลังมีปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง
- กู้หนี้ใหม่เพื่อโปะหนี้เก่า เมื่อเริ่มกู้เงินมาใหม่เพื่อใช้หนี้เก่า หนี้ก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ
- เริ่มเครียด นอนไม่หลับ หากมีความเครียดจากการเงินทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน นอนไม่ค่อยหลับจนส่งผลต่อชีวิตประจำวัน
ทั้งหมดนี้ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องใช้เงินอย่างระวังที่สุด ต้องรีบปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายทันที ใช้บัตรเครดิตให้เป็น ‘ผู้ช่วย’ ไม่ใช่ ‘ผู้สร้างปัญหา’ แค่มีวินัยและสติทุกครั้งที่รูด ก็สามารถใช้บัตรได้อย่างคุ้มค่าและไม่ตกเป็นเหยื่อของหนี้บัตรเครดิต
อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นหนี้เสียแล้ว อย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยเริ่มจากการรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ หยุดสร้างหนี้ใหม่ และเข้าไปเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะกับความสามารถในการจ่ายของตัวเอง










