เดนมาร์ก, นอร์เวย์ และอีกหลายชาติในยุโรป ระงับการใช้งานวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาชั่วคราว เพื่อสอบสวนหลังพบผู้ได้รับวัคซีนคนหนึ่งมีอาการเลือดแข็งตัวและเสียชีวิตในเดนมาร์ก
วันที่ 12 มีนาคม 2564 เว็บไซต์อัลจาซีรารายงานว่า เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) มีหลายประเทศในแถบยุโรปประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา เป็นการชั่วคราว หลังมีรายงานว่า ผู้ได้รับวัคซีนมีอาการเลือดแข็งตัว และอาจเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จนต้องมีการสอบสวนว่า อาการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับวัคซีนโควิด-19 หรือไม่
โดยในจำนวนประเทศที่ระงับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา ประกอบไปด้วย เดนมาร์ก ซึ่งขอระงับการใช้งานเป็นเวลา 14 วัน หลังมีการยืนยันว่า มีหญิงชาวเดนมาร์กวัย 60 ปี มีอาการเลือดแข็งตัวและเสียชีวิต หลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาชุดเดียวกับที่ใช้ในประเทศออสเตรีย ซึ่งก็ทำให้มีการระงับใช้งานวัคซีนดังกล่าวในออสเตรียตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีก 4 ประเทศได้แก่ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก และลัตเวีย ที่ประกาศระงับการใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ล็อตเดียวกับที่ประสบปัญหาในเดนมาร์กไปก่อนด้วย
เช่นเดียวกับนอร์เวย์ที่ออกคำสั่งระงับการใช้งานวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเช่นกัน พร้อมชี้ว่า จะรอข้อมูลเพิ่มเติมถึงความเชื่อมโยงระหว่างการฉีดวัคซีนกับอาการลิ่มเลือดต่อไป

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านยาของสหภาพยุโรปออกมายืนยันว่า ไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างอาการเลือดแข็งตัวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา โดยชี้ว่าสัดส่วนผู้ป่วยเลือดแข็งตัวในกลุ่มประชากรทั่วไป กับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว ไม่มีความแตกต่างกัน
ส่วนที่อังกฤษ รัฐบาลยังคงยืนยันให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่อไป โดยให้เหตุผลว่า อาการเลือดแข็งตัวเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้โดยทั่วไป ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซนากาในสหราชอาณาจักรแล้วกว่า 11 ล้านโดส
ขณะที่โฆษกของแอสตราเซเนกาออกมายืนยันว่า ที่ผ่านมาวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาถูกศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งานอย่างเข้มงวด และได้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพจากหน่วยงานที่รับรองแล้ว
สเตจีออส มอสชอส นักชีววิทยาโมเลกุล มหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียในสหราชอาณาจักรชี้ว่า ท่าทีของรัฐบาลเดนมาร์ก นอร์เวย์ และรัฐบาลอื่นๆ ที่ระงับการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาชั่วคราว ถือว่าทำถูกต้องแล้ว เพราะเมื่อเกิดความกังวลขึ้น ก็ควรระงับและสอบสวนเหตุดังกล่าวอย่างระมัดระวัง










