ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์หวั่นเรื่องความปลอดภัย หลังแก๊งค้ายาสังหารนักการเมืองไปแล้ว 2 คนในรอบสัปดาห์
การเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ที่กำลังจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ส.ค. 2023 กำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียดขีดสุด ผู้สมัครหลายคนต้องใส่เสื้อกันกระสุนระหว่างการหาเสียง หลังจากที่เกิดเหตุลอบสังหารนักการเมืองอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้าย
ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน เฟร์นานโด บิยาบิเซนซิโอ อดีตผู้สื่อข่าววัย 59 ปี และเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค Movimiento Construye ได้ถูกแก๊งค้ายาบุกยิงหลังจากเสร็จสิ้นการหาเสียงเมื่อวันที่ 9 ส.ค. จนถึงแก่ชีวิต และกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
จากนั้นเมื่อวันจันทร์ (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน เมื่อ เปโดร บริโอเนส ผู้นำท้องถิ่นของพรรค Citizen Revolution ถูกสังหารเสียชีวิตที่บ้านพักไปอีกคน
จากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งหลายคนต้องเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย รวมถึงใส่เสื้อกันกระสุนในระหว่างหาเสียงตามที่ต่างๆ
อันเดรีย กอนซาเลซ แคนดิเดตรองประธานาธิบดี ที่ลงสมัครคู่กับนายบิยาบิเซนซิโอผู้ล่วงลับ เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เอกวาดอร์ใกล้จะกลายเป็นรัฐยาเสพติด (Narco State) เต็มทีแล้ว ทุกคนต่างอยู่ในความเสี่ยง แค่การพาลูกไปโรงเรียนก็ถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากแล้ว ทุกครั้งที่ติดไฟแดง อาจมีใครมายิง หรือมีระเบิดมาวางอยู่ข้างๆ รถก็ได้
ปัจจุบัน กอนซาเลซยอมรับว่าเธอต้องสวมเสื้อกันกระสุนไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ยังคงยืนยันจะเดินหน้าต่อไปในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ในฐานะผู้สมัครตำแหน่งรองประธานาธิบดี
ในส่วนของตำแหน่งผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคที่ว่างลง ทางพรรคได้มีการส่ง คริสเตียน ซูริตา ผู้สื่อข่าววัย 53 ปีเข้ามาแทนที่
ก่อนหน้านี้ เอกวาดอร์เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน โดยเมื่อปี 2016 อัตราการเกิดเหตุฆาตกรรมในประเทศอยู่ที่ 5.8 ต่อ 100,000 คน แต่สถิติในปีล่าสุดกลับพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 25.6 ต่อ 100,000 คนแล้ว
มีการวิเคราะห์ว่า สาเหตุหลักมาจากการเข้ามาของแก๊งค้ายาต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานร่วมกับองค์กรอาชญากรรมในเอกวาดอร์ และการเข้ามาของทุนสีเทาก็ส่งผลต่อเนื่อง ทำให้ตัวเลขการคอร์รัปชันในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย










