จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในยุโรปเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หวั่นระบาดซ้อนกับโควิด-19 จนส่งผลต่อระบบสาธารณสุข
วันที่ 17 ม.ค. 2022 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) พบจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ในจำนวนที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า ยุโรปอาจเผชิญกับภาวะโรคระบาดซ้อน (Twindemic) ทั้งจากโรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19
ตามรายงานระบุว่า มีการตรวจพบผู้ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่น้อยมากในช่วงหน้าหนาวเมื่อปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ใส่หน้ากาก และเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการระบาดของโควิด-19 แล้ว ยังเป็นการป้องกันไม่ให้ไข้หวัดใหญ่ระบาดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หลายประเทศตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการ ทำให้เริ่มเห็นจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2021 ทาง ECDC และองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู 43 ราย
หากนำไปเทียบกับช่วงปี 2018 ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 ยังถือว่ามีจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่เข้าไอซียูน้อยกว่าปีดังกล่าว ที่เคยมีจำนวนมากที่สุดถึง 400 ราย
แต่หากเทียบกับปี 2020 ที่มีผู้ป่วยเข้าไอซียูเพียง 1 รายตลอดเดือนธ.ค. เท่ากับว่าจำนวนผู้ป่วยในตอนนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
อีกปัญหาหนึ่งที่ทางยุโรปกำลังเผชิญอยู่ คือความผิดพลาดในการคาดการณ์สายพันธุ์ที่ระบาดในปีนี้
ปกติแล้ว ผู้ผลิตวัคซีนจะทำการประเมินข้อมูลแบบปีต่อปี เพื่อวิเคราะห์ว่าจะต้องใช้วัคซีนชนิดใดในการรับมือกับสายพันธุ์ที่คาดว่าจะระบาดในปีถัดไป โดยจะมีการสรุปล่วงหน้า 6 เดือนก่อนจะถึงฤดูของการระบาด
แต่การที่ปีก่อนไม่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ผลิตมีข้อมูลไม่เพียงพอในการเตรียมวัคซีนไว้รองรับกับสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในช่วงนี้
พาซี เพตติเนน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไข้หวัดใหญ่ของ ECDC เปิดเผยว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในปีนี้คือชนิด A สายพันธุ์ H3 แต่วัคซีนที่ใช้ในปีนี้กลับไม่ใช่ตัวที่สามารถรับมือกับ H3 ได้ดีที่สุด
สำหรับกรณีที่แย่ที่สุด คือการที่มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ต้องใช้ห้องไอซียูเพิ่มขึ้น และเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนยังคงแพร่ระบาด อาจทำให้ระบบสาธารณสุขในยุโรปไม่สามารถรับมือกับการช่วยเหลือผู้ป่วยอาการหนักจากทั้ง 2 โรคพร้อมกันได้










