
ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงสำคัญในงาน FinTech Fair 2019 ที่จัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2562 นั้นคือ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่บรรดาสถาบันการเงินและผู้ให้บริการทางการเงินมากมายต่างมาร่วมโชว์เทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งจะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และนี่คือ 4 นวัตกรรมใหม่จากงาน FinTech Fair 2019 ที่จะมาเปลี่ยนโลกการเงินให้ไม่เหมือนเดิม
- Facial Recognition เพียงสแกนหน้าก็สามารถโอนเงินได้
เป็นรูปแบบหนึ่งของการตรวจสอบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Know Your Customer : e-KYC) ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ (Biometric) โดยใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า หรือ Facial Recognition มาพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการทางการเงิน ซึ่งจะมาช่วยลดข้อจำกัดและความซับซ้อนให้ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สาขา เพียงแค่คุณมีโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องก็สามารถใช้บริการของธนาคารได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชี การโอนเงิน และการขอสินเชื่อ คาดว่าธนาคารต่างๆ จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
- Face Pay และ Palm Vein Pay จ่ายเงินด้วยใบหน้าและฝ่ามือ
ในอนาคตเราอาจไม่ต้องพกเงินติดตัวไปซื้อของที่ตลาดและห้างสรรพสินค้าแล้ว เพราะธนาคารต่างๆ ได้พัฒนานวัตกรรมที่มาเป็นทางเลือกในการซื้อของและจ่ายเงินด้วยใบหน้าและฝ่ามือของเราเอง โดยทางธนาคารกสิกรไทยได้มาแสดงขั้นตอนการซื้อสินค้าด้วยการใช้ใบหน้าในชื่อว่า “Face Pay” ซึ่งหลังจากที่เราได้ใช้การสแกนใบหน้ามาเปิดบัญชีแล้ว เราก็สามารถชำระสินค้าด้วยเพียงการสแกนใบหน้า ระบบจะสแกนใบหน้าผู้ซื้อและเชื่อมไปยังบัญชีที่คุณผูกไว้อยู่ จากนั้นก็ระบบจะตัดเงินอัตโนมัติ อีกอันคือ “Palm Vein” หรือ การสแกนเส้นเลือดในฝ่ามือ นวัตกรรมที่ธนาคารไทยพาณิชย์นำมาแสดงในงาน โดยมีความแม่นยำถึง 99.99999% และสามารถมาเป็นทางเลือกหนึ่งในการจ่ายเงินซื้อของและการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากบัตรเครดิตและการสแกนคิวอาร์โค้ด
- เชื่อมระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนจากภาครัฐสู่เอกชนด้วย NDID
บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด ได้เปิดตัวระบบโครงสร้างพื้นฐานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (National Digital ID : NDID) ในการเป็นตัวกลางเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยระบบ NDID จะไม่มีการรวมศูนย์เก็บข้อมูล แต่ข้อมูลจะถูกเก็บแบบกระจายศูนย์ภายใต้หน่วยงานที่ดูแลข้อมูลนั้นๆ ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยในระยะแรกที่จะเปิดให้ใช้งานตอนต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ จะเป็นการให้บริการการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์และการขอสินเชื่อออนไลน์ แต่หลังจากนั้นจะขยายให้ครอบคลุมการให้บริการที่หลากหลายต่อไปไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีลงทุนออนไลน์ การทำประกันชีวิต หรืออาจเป็นไปได้ถึงการพบแพทย์ผ่านระบบออนไลน์
- MyPromptQR มิติใหม่ของการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด
เป็นบริการ QR Payment รูปแบบใหม่ซึ่งขยายวงไปสู่ภาคธุรกิจ เพื่อช่วยตอบโจทย์ร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าที่มีเครือข่ายสาขาจำนวนมาก ให้สามารถรับชำระเงินได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น จากการให้บริการคิวอาร์โค้ดในปัจจุบันที่ลูกค้าต้องกรอกยอดเงินและสแกนคิวอาร์โค้ดของร้านค้า แต่บริการนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถกดคิวอาร์โค้ดของตัวเองได้จากแอปพลิเคชันของธนาคารพาณิชย์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ต่างๆ ซึ่งคิวอาร์โค้ดนี้จะสามารถใช้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้น เมื่อลูกค้าได้รับคิวอาร์โค้ดที่เชื่อมเข้ากับบัญชีตัวเองแล้ว ก็จะสามารถให้ร้านค้าต่างๆ สแกนเพื่อชำระเงินค่าสินค้าและบริการได้ โดยตอนนี้ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อย่างเช่น เดอะมอลล์ กรุ๊ป เซ็นทรัล เจดี มันนี่ และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ พร้อมที่จะให้บริการสแกน MyPromptQR เพื่อชำระเงินได้แล้ว









