
วันที่ 3 เม.ย.63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทางการรัฐฟลอริดา ได้อนุญาตให้เรือสำราญซานดาม (Zaandam) และเรือสำราญรอตเตอร์ดาม (Rotterdam) ของบริษัทฮอลแลนด์ อเมริกา (Holland America) ที่บรรทุกผู้โดยสารหลายรายที่ป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เข้าเทียบท่าได้ที่ท่าเรือเอเวอร์เกลดส์ (Everglades) หลังเรือทั้ง 2 ลำ ต้องลอยอยู่กลางทะเลนานถึง 12 วัน
ทั้งนี้การระบาดของโรคโควิด-19 บนเรือดังกล่าว ทำให้ชิลี, อาร์เจนตินา และเปรู ปฏิเสธที่จะให้เรือซานดามเทียบท่า ทั้งยังถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสู่คลองปานามา เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังเมืองฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา อีกด้วย
จนกระทั่งวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เรือสำราญจึงตัดสินใจทำตามกำหนดการเดิมคือกลับมาเทียบท่าที่ฟลอริดา เนื่องด้วยความกังวลของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเกี่ยวกับความพร้อมทางการแพทย์และความปลอดภัยของผู้คนบนบก
ในบรรดาผู้โดยสาร 1,250 คนและลูกเรือ 1,186 คนบนเรือทั้ง 2 ลำ มีผู้ป่วยบนเรือซานดามราว 200 รายที่แสดงอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ขณะที่ 9 รายมีผลทดสอบว่าเป็นโรคโควิด-19 ทั้งยังมีผู้เสียชีวิต 2 ใน 4 รายบนเรือด้วยโรคนี้ ซานดามจึงตัดสินใจพาผู้โดยสารที่ยังสุขภาพดี 800 คนเปลี่ยนไปลงเรือรอตเตอร์ดาม เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหวังยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสบนเรือซานดาม
ทั้งนี้ทางบริษัทเรือสำราญได้ทำข้อตกลงกับหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งระบุว่าผู้โดยสาร 13 รายจะต้องลงไปเข้ารับการดูแลทางการแพทย์บริเวณชายฝั่ง ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้ป่วยหนักจะต้องอยู่บนเรือเพื่อรับการรักษาจนกว่าจะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ และผู้โดยสารที่มีสุขภาพดีจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านด้วยรถบัสหรือเครื่องบิน
ด้านนายรอน เดอซานทิส (Ron DeSantis) ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาซึ่งอนุมัติให้เรือดังกล่าวเข้าเทียบท่า กล่าวถึงแผนนี้ว่า “ผ่านการไตร่ตรองอย่างดีแล้ว” พร้อมปฏิเสธที่จะให้เรือจอดเทียบท่าเพื่อปล่อยตัวผู้โดยสารทั้งหมดไป โดยก่อนหน้านี้ในวันอังคาร เขากล่าวไว้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในระบบสาธารณสุขของรัฐมีงานล้นมือและไม่สามารถรับมือกับผู้ป่วยทั้งหมดบนเรือได้









