คนหลายพันคนออกมาเดินขบวนในฝรั่งเศสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องให้ประเด็นความรุนแรงในครอบครัวต่อสตรีกลายเป็นประเด็นสำคัญ โดยการเดินขบวนที่ใหญ๋ที่สุดเกิดขึ้นในกรุงปารีส จากบริเวณโรงละครแห่งชาติไปตามท้องถน ประชาชนสวมเสื้อสีม่วงขาวชูป้ายเรียกร้องให้ยุติการฆาตกรรมผู้หญิง มีดารา นักแสดงเข้าร่วมการเดินขบวนอย่างคับคั่ง ข้อเรียกร้องหนึ่งคือให้เพิ่มงบประมาณในการยุติความรรุนแรงทางเพศอีก 1 พันล้านยูโร (ประมาณ 30,000 ล้านบาท)
การเดินขบวนดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากลที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ มีการเดินขบวนในเมือง 30 เมืองทั่วฝรั่งเศส เข้าร่วมโดยองค์กรต่าง ๆ กว่า 70 องค์การ รวมทั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร พรรคการเมือง สหภาพแรงงานต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลมองเห็นปัญหาเรื่องนี้
แม้ฝรั่งเศสจะมีสถิติความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงานดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ก็ยังเป้นประเทศต้น ๆ ในยุโรปที่มีสถิติความรุนแรงในครอบครัวสูง ตัวเลขจากสำนักข่าว AFP รายงานว่า ปีที่ผ่านมามีผู้หญิงฝรั่งเศสกว่า 166 คนถูกฆ่าตายโดยสามี คู่รัก และอดีตคู่รัก ขณะที่ตัวเลขจากกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์นำลิ่วไปถึง 137 ราย
โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงในฝรั่งเศสถูกคนรักหรือคนรักเก่าฆ่าทุก ๆ 3 วัน ขณะที่ การใช้ความรุนแรงหลังแต่งงานส่งผลต่อชีวิตหญิงฝรั่งเศสกว่า 220,000 คนในทุกปี
ก่อนหน้านี้นักกิจกรรมฝรั่งเศสที่รณรงค์เรื่องนี้ใช้วิธีติดโปสเตอร์ทุกครั้งที่มีรายงานข่าวผู้หญิงถูกฆ่าโดยคนใกล้ชิด มีการประท้วงด้วยการนอนบนฟุตบาทเพื่อแสดงสัญลักษณ์ถึงผู้หญิงที่ถูกฆ่า
นิกอล เบลูเบต์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเคยออกมายอมรับเองว่า “ระบบของพวกเราไม่เคยคำนึงที่จะปกป้องผู้หญิงเหล่านี้” หลังมีประเด็นร้อนในฝรั่งเศสว่ามีหญิงสาวพยายามขอความช่วยเหลือตำรวจผ่านสายด่วนโทรศัพท์เนื่องจากสามีขู่จะฆ่าเธอ แต่ตำรวจกลับตอบว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้
จากการวิจัยของอัลเบ็น เดียร์ริ่ง รายงานว่าตำรวจยุโรปมักปฏิเสธไม่เข้าไปช่วยเหลือปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ตัวเลขของปัญหานี้ในฝรั่งเศสสูงกว่าที่อื่นมาก
