
วันที่ 27 พ.ค.63 สำนักข่าว CNN รายงานว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ประกาศอัดฉีดงบประมาณจำนวนกว่า 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อประคองภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้โรงงานต้องหยุดการผลิตชั่วคราวและยอดขายตกลงมากกว่า 80% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
โดยทางประธานาธิบดีมาครงกล่าวว่า “ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ จำนวนรถยนต์ที่ตกค้างอยู่ในโรงงานจะมีจำนวนมากกว่า 5 แสนคัน นี้คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเรา” โดยงบประมาณที่รัฐบาลฝรั่งเศสอัดฉีดครั้งนี้จะแบ่งออกเป็นงบประมาณเพื่อรักษาเสถียรภาพให้เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของประเทศ เป็นจำนวนกว่า 5 พันล้านยูโร
ขณะที่งบประมาณส่วนที่เหลือจะเป็นเงินสนับสนุนโครงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งทางรัฐบาลฝรั่งเศสตั้งเป้าที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและผู้นำด้านการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาค ทั้งนี้ทางเรโนลต์ ค่ายรถยนต์ชื่อดังของฝรั่งเศสที่มีจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลมากถึง 5 พันล้านยูโร แต่ทว่าบริษัทยังคงมีแผนที่จะปิดโรงงานบางส่วนและลดจำนวนพนักงานลง เพื่อลดต้นทุนการผลิตลง 2 พันล้านยูโร









