ผู้นำกลุ่ม G7 ร่วมประชุมกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหายูเครน-รัสเซีย รวมไปถึงประเด็นวิกฤตอาหารและพลังงาน
การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ที่ประเทศเยอรมนีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยประเด็นสำคัญที่มีการพูดคุยกันคือเรื่องสงครามในยูเครน และผลกระทบด้านอาหารและด้านพลังงานที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก
สำหรับกลุ่ม G7 นั้นประกอบไปด้วยแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยแต่ละปี ผู้นำของประเทศกลุ่มนี้จะประชุมกันเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของโลก ต่อมาได้รวมไปถึงการพูดคุยปัญหาสังคมและการเมืองของโลก แต่หลักๆ แล้วยังคงเป็นการเพิ่มความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก
โดยก่อนที่การประชุมเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 2022) จะเริ่มขึ้น มีรายงานว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธเข้าใส่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการแสดงความป่าเถื่อน และย้ำเตือนถึงความสำคัญของการร่วมมือกันของชาติพันธมิตร โดยย้ำว่าประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้รอคอยตั้งแต่เริ่มต้น ว่าองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) และกลุ่ม G7 จะแตกคอกัน แต่สิ่งนั้นยังไม่เกิดขึ้น และก็จะไม่เกิดขึ้นในอนาคตด้วย
นายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนีที่แถลงร่วมกันได้แสดงความเห็นด้วยกับผู้นำสหรัฐฯ พร้อมกล่าวว่า ทั้งหมดยังคงสามัคคีกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูตินไม่เคยคาดคิด เยอรมนีและสหรัฐฯ จะยังคงทำงานร่วมกันตลอดหากเป็นเรื่องความมั่นคงของยูเครน
บรรยากาศก่อนเริ่มประชุมมีท่าทีที่ค่อนข้างผ่อนคลาย โดยก่อนที่นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักรจะนั่งลงบนโต๊ะเป็นคนสุดท้าย ได้มีการสอบถามเหล่าผู้นำคนอื่นๆ ว่าควรจะถอดเสื้อนอกดีหรือไม่ ก่อนจะเสนอให้ถอดออก เพื่อแสดงให้เห็นว่าเข้มแข็งกว่าประธานาธิบดีปูติน เป็นการล้อเลียนถึงภาพของผู้นำรัสเซียที่มักจะแสดงออกถึงความเป็นชาย ผ่านรูปที่ถอดเสื้อผ้าทำกิจกรรมกลางแจ้ง
จากนั้นนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด กล่าวเสริมทันทีว่า ให้แสดงภาพถอดเสื้อขี่ม้าไปเลย ก่อนที่ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน จะรับมุกต่อว่า ภาพขี่ม้านั้นดีที่สุดแล้ว










