กระแส ‘ออมทอง’ ยังฮอต คนไทยแห่ช้อปทองออนไลน์ ยิ่งราคาสูงยิ่งอยากซื้อ

กระแส ‘ออมทอง’ ยังฮอต คนไทยแห่ช้อปทองออนไลน์ ยิ่งราคาสูงยิ่งอยากซื้อ

การเงิน

หนึ่งในสินทรัพย์ที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุด “ทองคำ” ที่ติดอันดับต้นๆ ในการสะสม แน่นอน ฟังก์ชั่นทองคำที่ไม่ใช่เพียงเครื่องประดับ แต่ทองคำยังเป็นการลงทุนที่หลายคนให้ความสนใจ และมั่นใจถือไว้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกผันผวน 

เมื่อปีที่แล้วถือเป็นปีที่ราคาทองพุ่งขึ้นสูงสุดทำนิวไฮหลายครั้ง และปีนี้เพิ่งเปิดปีใหม่มาไม่กี่เดือน ราคาทองพุ่งนิวไฮไปอีก ทั้งราคาทองคำไทยที่ทำสถิติเคยแตะไปถึง 47,450 บาท/บาททองคำ ส่วนราคาทองคำโลกก็เคยไปแตะเกือบ 3,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

จากเทรนด์ทองขาขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้วทำให้ตอนนี้หลายคนเข้าวงการซื้อทองเก็บไว้ทำกำไรกันไม่น้อย 

[ คนไทยชอบซื้อทองออนไลน์มากขึ้น ] 

ประเทศไทยมีร้านทองกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ แต่ตอนนี้เทรนด์การซื้อทองเปลี่ยนไปนอกจากกลุ่มที่ชอบซื้อทองตามหน้าร้านที่ยังมีอยู่แล้ว ล่าสุดยังมีความนิยมซื้อทองผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น 

ตอนนี้มีแพลทฟอร์มให้บริการซื้อทองออนไลน์หลายเจ้า ที่ลงทุนได้ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงก้อนใหญ่หลักล้าน ทำให้คนรุ่นใหม่และกลุ่มคนทำงานพนักงานออฟฟิศที่อาจไม่มีเงินก้อนใหญ่สามารถเข้ามาลงทุนด้วยเงินทีละน้อยซื้อทองออนไลน์ออมไว้ 

วิธีออมทองออนไลน์ของคนไทยที่เพิ่มขึ้นตามกระแสทองขาขึ้น เมื่อไปดูเทรนด์ในต่างประเทศพบว่า การลงทุนทองมักจะเป็นในรูปแบบของกองทุน ETF หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามากกว่า 

ส่วนในไทยตอนนี้ความนิยมซื้อทองที่จับต้องได้ กับทองออนไลน์กำลังมา 

โดยทองคำที่ซื้อขายในไทยจะเป็นทองคำ 96.5% หรือ 23 กะรัต ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ร้านทองรับซื้อคืนได้ง่าย ส่วนทองคำ 99.99% (24 กะรัต) ที่นิยมในตลาดโลกก็เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น แต่ราคาสูงกว่าและขายกันเป็นขนาดใหญ่ เช่น ทองแท่ง 1 กิโลกรัมที่มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ทำให้คนทั่วไปยังคงเลือกซื้อทองแบบเดิมอยู่

[ ธุรกิจทองไทยบูมสุดๆ รายได้รวมยังแซง 7-Eleven ]

ด้วยการซื้อขายทองคำที่ง่ายขึ้นทางออนไลน์ ทำให้ธุรกิจทองคำไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 2566 มีถึง 4 บริษัททองคำที่ติด 10 อันดับแรกของบริษัทที่มีรายได้สูงสุดในประเทศ แซงหน้าธุรกิจค้าปลีกใหญ่ๆ อย่าง 7-Eleven ไปแล้วด้วยซ้ำ

มีข้อมูลบอกว่าในปี 2566 บริษัทที่มีรายได้สูงสุดในประเทศไทย 10 อันดับแรก มีบริษัทค้าทองคำถึง 4 แห่ง ได้แก่

      • Hua Seng Heng Commoditas
      • YLG Bullion International
      • MTS Gold
      • InterGOLD Goldtrade

บริษัทเหล่านี้มีรายได้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ในประเทศอย่าง ปตท. แสดงให้เห็นว่าธุรกิจทองคำในไทยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และได้รับความนิยมสูงขึ้นจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่

สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รายงานว่า ‘ฮั่วเซ่งเฮง’ ร้านทองเก่าแก่ของไทยที่เปิดมา 75 ปี มีหน้าร้านแค่ 6 แห่ง แต่ปัจจุบันมีลูกค้าออนไลน์เป็นหลัก โดยระบบออนไลน์ช่วยให้สามารถรองรับลูกค้าพร้อมกันได้ถึง 30,000 – 40,000 คนต่อวัน เทียบกับหน้าร้านที่มีพนักงานให้บริการได้เพียง 15 คนต่อครั้งเท่านั้น

ตอนนี้แนวโน้มการลงทุนทองคำของคนไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มใช้วิธี “ออมทอง” ผ่านแอปพลิเคชัน และได้รับอิทธิพลจากยูทูบเบอร์ด้านการเงิน

และถึงแม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็มองว่าความต้องการอาจลดลงหากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นในปี 2568 แต่ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าเกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมทั้งนโยบายต่างๆ ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ย่อมส่งผลต่อราคาทอง

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าราคาทองจะขึ้นหรือลง คนไทยก็ยังคงให้ความสนใจกับทองคำต่อไป เพราะไม่ใช่แค่เครื่องประดับหรือของสะสม แต่คือ “ความมั่นคง” หรือ “สินทรัพย์ที่ต้องมี” แบบที่คนไทยเชื่อถือมาตลอด

ที่มา :

      • https://asia.nikkei.com/Spotlight/ASEAN-Money/Thailand-s-fascination-with-gold-soars-into-the-cloud
แท็กที่เกี่ยวข้อง
AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง