เข้าซื้อ-ขายออก ตอนไหน? เมื่อราคาทองทำท่า ถึง 55,000 บาทปลายปี

เข้าซื้อ-ขายออก ตอนไหน? เมื่อราคาทองทำท่า ถึง 55,000 บาทปลายปี

การเงิน

ราคาทองคำพุ่งพรวดขึ้นเรื่อยๆ ปรับตัวมากกว่า 500 บาทมาหลายวันติดแล้ว ล่าสุดวันนี้ (1 เม.ย. 2568) ทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 50,700 บาท/บาททองคำ รับซื้ออยู่ที่ 50,600 บาท/บาททองคำ ขณะที่ทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 51,500 บาท/บาททองคำ รับซื้ออยู่ที่ 49,694 บาท/บาททองคำ

“ที่ราคาทองพุ่งขึ้นเร็วขนาดนี้มาจาก ‘สงครามการค้าสหรัฐฯ’ เป็นปัจจัยหลักปัจจัยเดียวเลย” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด กล่าวกับ TODAY Bizview

เขาอธิบายว่า ถ้าดูปัจจัยราคาทองปีที่แล้ว (ปี 2567) จะพบว่าปัจจัยหลัก ของราคาทองคือเรื่องของสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ตอนนี้ดำเนินต่อแต่นิ่งๆ ไปแล้ว  พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ตอนนี้ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไร 

แต่ในปีนี้ (ปี 2568) ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเป็นเรื่องของ ‘สงครามการค้าสหรัฐฯ’ ที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ได้ขึ้นกำแพงภาษีกับประเทศต่างๆ เช่น จีน แคนาดา แม็กซิโก โดยที่เรื่องนี้ก็หนุนให้ราคาทองพุ่งมาแล้วเกือบ 20% และยังมีแนวโน้มว่าจะพุ่งต่อเพราะสถานการณ์สงครามการค้าจะไม่แน่นอน 

[ ราคาทองคำไทยมีโอกาสขึ้นอีก 5,000 บาท/บาททองคำ ]

โดยทิศทางราคาจากมุมมองของ ‘MTS GOLD แม่ทองสุก’ และ ‘Goldman Sachs’ ประเมินว่าน่าจะปรับขึ้นไปที่บริเวณ 3,500 เหรียญ/ทรอยออนซ์ โดยอยากให้นักลงทุนมองเป้าหมายราคาไว้ที่ระดับนี้ เพราะมีบางสถาบันประเมินไว้สูงมากถึง 4,500 เหรียญ/ทรอยออนซ์

สำหรับราคาทองคำไทยตอนนี้มองว่ามีโอกาสขึ้นอีก 5,000 บาท/บาททองคำ อิงจากราคาทองคำโลก ถ้าถึง 3,500 เหรียญ/ทรอยออนซ์ หรือห่างจากราคา ณ ปัจจุบัน 360 เหรียญ ก็จะเท่ากับเพิ่มขึ้นมา 5,000 บาท คำนวณง่ายๆ ว่าทุกๆ 100 เหรียญ ราคาทองคำไทยจะเพิ่มขึ้น 1,500 บาท 

“ทำให้ในปีนี้เราอาจจะเห็นราคาทองแตะ 55,000 บาท/ทองคำได้ในปลายปีนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทด้วยว่าจะแข็งไม่แข็งลงมามากมายนัก”

ส่วนใครที่สนใจอยากหาจังหวะเข้าซื้อและจังหวะขาย  นพ.กฤชรัตน์ วิเคราะห์ให้ฟังว่า คนที่ต้องการเก็งกำไร ต้องยอมรับว่าตอนนี้ราคาพุ่ง มีความเสี่ยงอยู่บ้าง คำแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อ แล้วแบ่งเงินออกเป็น 10 ส่วน หาจังหวะเมื่อราคาย่อหรือหดตัวแล้วค่อยเข้าซื้อ

ส่วนถ้าใครอยากลงทุนทองในตอนนี้ โดยไม่มีเทคนิคพื้นฐานเลย แนะนำว่า ให้ลงทุนเพื่อการออม ในปริมาณไม่มาก เป็นเงินที่เราเหลือเก็บในทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน และซื้อทองคำโดยที่เราไม่ต้องสนใจว่าทองคำขึ้นหรือลงราคาไหน 

หรือพูดง่ายๆ ว่าลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging หรือ DCA เพราะมีความปลอดภัย และเหมาะกับหวังผลในระยะยาวมากกว่า 1 ปี โดยเป็นวิธีการออมที่สะดวกและปลอดภัย สามารถกระจายการลงทุนในน้ำหนักที่เท่าๆ กันได้ที่ช่วงเวลาเท่ากัน จะลงทุกอาทิตย์หรือทุก 3 วันก็ได้ โดยที่ลงทุนเงินเท่าๆ กัน 

AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง