หวีผมนิดเดียว ผมร่วงเป็นกำ ใครเป็นยกมือขึ้น! เชื่อว่าหลายคนคงเคยรู้สึกว่าทำไมผมร่วงเยอะจัง แค่หวีเบา ๆ หรือสระผมก็หลุดติดมือมาเป็นกำ ปัญหานี้พบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยทำงาน ที่ต้องแบกรับทั้งภาระหน้าที่ และความเครียดสะสมในแต่ละวัน เพราะจริงๆ แล้ว ‘ความเครียด เป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงเร็วกว่าปกติ และนำไปสู่ ‘ภาวะผมร่วง’ ที่จะมีอาการผมร่วงอย่างต่อเนื่อง
และหากปล่อยไว้นานเกินไป รากผมอาจเสียหายถาวร และไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ ส่งผลให้ผมน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จนเป็น ‘ภาวะผมบาง’ ก่อนจะเสียความมั่นใจไปมากกว่านี้ พญ.กรผกา ขันติโกสุม แพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง ศูนย์ผิวหนังและความงาม รพ.วิมุต ได้เล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงมากผิดปกติ พร้อมแบ่งปันเทคนิคดูแลสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น
[ปัญหาใหญ่วัยทำงาน ยิ่งเครียด ผมยิ่งร่วง]
นับเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาผมร่วงที่พบได้บ่อย และหลายคนมักมองข้าม นั่นคือ ความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนวัยทำงาน อายุระหว่าง 25-45 ปี
ด้วยเป็นช่วงที่ชีวิตเต็มไปด้วยแรงกดดันจากงาน และหน้าที่รับผิดชอบ ส่งผลให้เกิดภาวะเครียดสะสม ในบางรายที่มีภาวะเครียดเรื้อรัง หรือมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย อาจมีพฤติกรรมดึงผมตัวเองแบบไม่รู้ตัว หรือที่เราเรียกว่า ‘โรคดึงผมตัวเอง’ (Trichotillomania) ซึ่งอาจทำให้ผมบางเร็วขึ้น
พญ.กรผกา ขันติโกสุม เล่าต่อว่า นอกจากความเครียดยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ผมร่วงได้ เช่น ภาวะผมบางจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) เกิดจากความไวของรากผมต่อฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ผู้หญิงหลังคลอด วัยหมดประจำเดือน หรือการใช้ยาคุมกำเนิดและยารักษาสิว
“ส่วนอาหารการกินก็เกี่ยว ถ้ามีการอดอาหาร ขาดธาตุเหล็ก วิตามิน D วิตามิน B12 หรือโปรตีน ก็อาจทำให้ผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่าย”

ทั้งนี้ ในบางคนอาจมีพฤติกรรมทำร้ายเส้นผม เช่น นอนในขณะหัวชื้น หวีผมขณะผมเปียก มัดผมตึงเกินไป ใช้สารเคมี ไดร์หรือหนีบผมด้วยความร้อนสูงเป็นประจำ และยังมีโรคบางชนิดที่ทำให้ผมร่วงอย่างโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) และผื่นเซ็บเดิร์ม รวมทั้งผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางประเภท เช่น ยาเคมีบำบัดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ก็เป็นเหตุของการผมร่วงได้
“เช่นเดียวกับมลพิษทางอากาศ การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็มีผลเสียต่อสุขภาพเส้นผมเช่นกัน” พญ.กรผกา กล่าว
[ติ๊กถูกข้อไหน ผมร่วงแบบนี้พบแพทย์ทันที]
หลายคนที่กังวลเรื่องผมร่วง มักสงสัยว่าผมร่วงเยอะแค่ไหนถึงต้องไปหาหมอ เพราะปกติเส้นผมก็ร่วงอยู่ทุกวัน พญ.กรผกา ระบุว่า โดยทั่วไปผมของเราจะร่วงประมาณ 100 เส้นต่อวัน หรือมากถึง 200 เส้นในวันที่สระผม แต่ถ้ามีอาการผมร่วงอย่างชัดเจน เช่น ผมติดหวี หรือ หมอน เป็นจำนวนมาก รวมถึงหล่นบนพื้นห้องน้ำมากผิดปกติ ก็ถือเป็นสัญญาณแรกที่ไม่ควรมองข้าม
“เบื้องต้นสามารถเช็กความเสี่ยงได้ ด้วยการใช้นิ้วมือสางผมเบา ๆ หากมีผมหลุดมากกว่า 2 เส้นหลายครั้ง ก็ควรเข้าไปรับคำปรึกษาจากแพทย์แต่เนิ่นๆ”
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีอาการรุนแรง เช่น ผมร่วงเป็นหย่อม คลำเจอจุดหัวล้าน มีอาการคัน แสบ หนังศีรษะแดง มีสะเก็ดหรือหนองร่วมด้วย ผมร่วงรวดเร็วภายใน 2–4 สัปดาห์ มีบริเวณหัวล้านขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย เช่น เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด หรือประจำเดือนขาด ก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที

ภาพ: รพ.วิมุต
[แนวทางการรักษาผมร่วง-บาง ในปัจจุบัน]
ในปัจจุบัน การรักษาปัญหาผมร่วง และผมบางได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก มีทั้งการรักษาด้วยยา และเทคโนโลยีใหม่ที่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาr แพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง ศูนย์ผิวหนังและความงาม อธิบายว่า แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยา เช่น Minoxidil ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณรากผม ใช้ได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
ส่วนอีกตัวคือ Finasteride ซึ่งเป็นยาลดระดับฮอร์โมน DHT ที่นิยมใช้ในผู้ชายเพื่อป้องกันผมร่วงจากพันธุกรรม หรืออาจรักษาด้วยวิธีการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) และการฉายแสงสีแดง (Low-level laser therapy) เพื่อกระตุ้นให้รากผมกลับมาแข็งแรงขึ้น
“การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ก็มีส่วนช่วยบ้าง แต่ต้องเลือกสินค้าที่มีมาตรฐานความปลอดภัย และสารประกอบสำคัญ เช่น แชมพูที่มี Ketoconazole ช่วยลดอาการอักเสบและต้าน DHT หรือผลิตภัณฑ์ที่มีปาล์มเลื่อย (Saw Palmetto), ไบโอติน, วิตามิน B และวิตามิน E ซึ่งช่วยบำรุงผมให้แข็งแรง”
อย่างไรก็ดี พญ.กรผกา อธิบายต่อว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยดูแลผมที่ยังมีอยู่เท่านั้น หากมีปัญหาผมร่วงรุนแรง หรือผมบางก็แนะนำให้ไปรักษากับแพทย์อย่างจริงจัง”
ขณะเดียวกัน ‘เทคโนโลยีปลูกผมที่ช่วยรักษาผมถาวร’ ก็เป็นที่พูดถึง หากเส้นผมบางลงจนเห็นได้ชัด และรากผมเสียหายถาวร แพทย์อาจแนะนำให้ปลูกผม โดยเทคโนโลยีที่นิยมในปัจจุบันคือ FUE (Follicular Unit Extraction)โดยใช้เครื่องมือขนาดเล็กย้ายรากผมจากท้ายทอยไปยังจุดที่มีปัญหา วิธีนี้แผลเล็ก ฟื้นตัวไว และดูเป็นธรรมชาติ ส่วน FUT (Follicular Unit Transplantation) แม้ได้รากผมจำนวนมากในครั้งเดียว แต่มีแผลใหญ่และพักฟื้นนานกว่า

ภาพ: รพ.วิมุต
ปัจจุบันยังมีงานวิจัยด้านสเต็มเซลล์และ 3D Hair Bioprinting ที่หากสำเร็จอาจช่วยสร้างรากผมใหม่ขึ้นมาได้
“เข้าใจว่าวัยทำงานที่ยังต้องเจอผู้คนมากๆ อาจรู้สึกอาย และไม่มั่นใจจากภาวะผมร่วงและผมบาง แต่คุณค่าของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับเส้นผมเพียงอย่างเดียว และภาวะนี้ก็สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ โดยต้องเข้าใจอาการที่เกิดขึ้น และเริ่มปรับไลฟ์สไตล์ พักผ่อนให้พอ ออกกำลังกาย เน้นกินอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม” พญ.กรผกา กล่าว
ตอนท้าย พญ.กรผกา ยังย้ำว่า อาการผมร่วงผิดปกติไม่ควรละเลย ให้รีบมาปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณภาวะผมร่วง ผมบาง และโรคอื่นๆ จะได้ช่วยกันหาแนวทางรักษาที่เหมาะสม ให้เรากลับมามั่นใจในตัวเองได้อีกครั้ง










