
สำนักข่าวซินหัว รายงานวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน (HKSAR) เปิดเผยรายละเอียดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากผู้ก่อจลาจล หลังจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนานหลายเดือน ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อฮ่องกง ตั้งแต่เศรษฐกิจระดับมหภาคไปจนถึงชีวิตประจำวันของประชาชน
แฟรงก์ เฉิน (Frank Chan) เลขาธิการสำนักงานคมนาคมและการเคหะ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า เครือข่ายการคมนาคมได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยสัญญาณไฟจราจรถูกทำลาย และรางรถไฟถูกรื้อถอน
เฉิน ระบุว่า สัญญาณไฟจราจรมากกว่า 400 แห่ง จากทั้งหมดมากกว่า 2,000 แห่ง ได้รับความเสียหาย ซึ่งส่งผลให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และคนเดินเท้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการ นอกจากนี้มีรั้วกั้นริมทาง 42,000 เมตร พื้นที่ทางเท้ากว่า 2,600 ตารางเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกบนท้องถนนสาธารณะมากกว่า 1,700 ชิ้น ถูกทุบทำลาย

เส้นทางรถไฟใต้ดินและสถานีเป็นเป้าหมายหลักของการก่อจลาจล ส่งผลให้ต้องหยุดการบริการรถไฟชั่วคราวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เครื่องสแกนเข้าสถานี 1,200 เครื่อง เครื่องจำหน่ายตั๋ว 1,200 เครื่อง กล้องวงจรปิด 900 ตัว และบันไดเลื่อน 40 ตัว ถูกทำลาย ส่วนระบบสัญญาณและห้องควบคุมได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน
หลิวเจียงหัว (Lau Kong-wah) เลขาธิการสำนักกิจการภายใน เปิดเผยว่า อาคารของฝ่ายบริหาร 6 อาคาร ถูกลอบวางเพลิงและทุบทำลาย อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ ภายในอาคาร ซึ่งรวมถึงห้องดูแลเด็ก คลินิกทันตกรรม และศูนย์ดูแลเด็กพิเศษยังถูกผู้ก่อจลาจลโจมตีด้วย









