องค์การสหประชาชาติเตือน ‘อย่าเล่นกับไฟ’ หยุดโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน หวั่นทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ซ้ำรอยหายนะเชอร์โนบิล
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (UN) ออกมาแสดงความกังวล หลังจากที่โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียในยูเครน ถูกโจมตีหลายครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
IAEA เปิดเผยว่า เกิดเหตุระเบิดมากกว่า 12 ครั้งที่โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียในช่วงเย็นวันเสาร์ (19 พ.ย.) จนถึงเช้าวันอาทิตย์ (20 พ.ย.) โดยมีระเบิดบางลูกตกใกล้กับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารเก็บกากกัมมันตภาพรังสีบางส่วน
ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA กล่าวว่า “ข่าวที่เราได้รับมาจากทีมงานของเราเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ เป็นเรื่องน่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง การระเบิดที่เกิดขึ้นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องหยุดทันที” พร้อมเสริมว่า “อย่างที่ผมพูดไปหลายครั้งแล้วว่า คุณกำลังเล่นกับไฟ”
“เราโชคดีที่ไม่มีหายนะนิวเคลียร์เกิดขึ้น แต่ครั้งต่อไป เราอาจจะไม่โชคดีเช่นนี้” กรอสซีระบุ
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าซาปอริซเซีย เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปซึ่งตั้งอยู่ในยูเครน แต่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย หลังจากที่กองทัพมอสโกบุกเข้ารุกรานยูเครนตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้มักจะตกเป็นเป้าโจมตีอยู่หลายครั้ง ในขณะที่รัสเซียและยูเครนต่างก็กล่าวโทษกันไปมาว่าอีกฝ่ายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการถล่มโรงไฟฟ้า
การโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้สร้างความกังวลให้กับนานาชาติ ว่าอาจทำให้เกิดหายนะนิวเคลียร์ เหมือนครั้งเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ขึ้นกับโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล เมื่อปี 2529 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจากผลกระทบของเหตุการณ์ครั้งนั้นมากกว่า 4,000 คน และเกิดการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีมาจนถึงปัจจุบัน










