ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยตัวเลขเด็กเสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับน้ำเชื่อมแก้ไอเพิ่มขึ้นเป็น 133 คน และป่วยอีก 241 คน ใน 22 จังหวัดแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ อย.ไทยยืนยัน ไม่พบน้ำเชื่อมแก้ไอดังกล่าววางจำหน่ายในไทย
.
รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซียยอมรับเมื่อวันศุกร์ (21 ต.ค.) ว่า ถึงจำนวนผู้เสียชีวิตและเจ็บป่วยในเด็กที่เกิดขึ้นจากน้ำเชื่อมแก้ไอ โดยระบุว่า เด็กเหล่านี้มีอาการป่วยจากภาวะไตวายเฉียบพลัน ผลจากส่วนประกอบของน้ำเชื่อมแก้ไอที่เป็นอันตราย ทั้งเอทิลีนไกลคอล (ethylene glycol), ไดเอทิลีนไกลคอล (diethylene glycol) และเอทิลีนไกลคอลบิวทิวอีเทอร์ (ethylene glycol butyl ether)
.
ทางการอินโดนีเซียยังระบุว่า พบสารดังกล่าวในยาชนิดน้ำเชื่อม 102 รายการ และได้สั่งระงับการขายหรือสั่งจ่ายยาเหล่านี้แล้ว
Kasus Gagal Ginjal Akut Pada Anak Meningkat, Orang Tua Diminta Waspada @KemenkesRI https://t.co/DHjJmXnecp pic.twitter.com/8lE4NPYJ1N
— Kementerian Kesehatan RI (@KemenkesRI) October 18, 2022
ก่อนหน้านี้เคยเกิดกรณีเด็กในแกมเบียเกือบ 70 คนเสียชีวิต เชื่อมโยงกับน้ำเชื่อมแก้ไอที่ผลิตและนำเข้ามาจากอินเดีย ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่า จากการตรวจสอบพบปริมาณของเอทิลีนไกลคอล (ethylene glycol) และไดเอทิลีนไกลคอล (diethylene glycol) ในปริมาณที่มากจนรับไม่ได้ใน 4 ผลิตภัณฑ์น้ำเชื่อมแก้ไอของอินเดีย
.
โดยเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ยาดังกล่าว และไม่พบข้อมูลการขายบนอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย
.
รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า สารปนเปื้อนดังกล่าวจัดเป็นวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร ซึ่งส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย ปัสสาวะไม่ออก ปวดศีรษะ สภาพจิตใจผิดปกติ ไตวายและอาจเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม อย. มีมาตรการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศอย่างเข้มงวด และจะดำเนินการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องต่อไป
.
ที่มา AFP, Al Jazeera
