“ในอนาคตอาจจะเหลือแค่คอนเสิร์ตก็ได้” คุยกับ ‘ลินิน’ สแตนด์อัปคอเมเดียน ในยุคที่คนเน้นเสพความบันเทิงจากบ้าน

“ในอนาคตอาจจะเหลือแค่คอนเสิร์ตก็ได้” คุยกับ ‘ลินิน’ สแตนด์อัปคอเมเดียน ในยุคที่คนเน้นเสพความบันเทิงจากบ้าน

“จัดโชว์ทำไม ยังไงคนยุคนี้ก็ดูแต่ TikTok?” เราถาม พี—นิวัฒน์ชัย ทรัพท์ไพศาล หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อ ลินิน ไปแบบนั้น

 

ย้อนกลับไปราว 4 ปี ลินินตบเท้าเข้าสู่วงการจับไมค์เล่าเรื่องตลกที่ Young Man Can Stand-Up 2021 การประกวดเฟ้นหาสแตนด์อัปคอเมเดี้ยนหน้าใหม่ ที่แม้ไม่สามารถคว้ารางวัลใหญ่มาครอง ทว่า ถ้อยคำและเรื่องราวของเขา มีเสน่ห์มากพอจะเกาะกุมหัวใจของผู้ชมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ลินินทำการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนอย่างต่อเนื่อง บ้างเป็นงานเดี่ยวของตัวเอง บ้างแวะไปแจมเวทีที่มีผู้พูดหลายชีวิต หรือกระทั่งเวทีคู่ เล่าเรื่องตลกคนละครึ่ง ลินินก็ลุยมาหมดแล้ว ลินินในวัย 28 คือคนรุ่นใหม่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการสแตนด์อัปคอเมดีเมืองไทย

สำหรับเรา มันไม่เกินจริงที่จะเขียนออกไปแบบนั้น และมันยิ่งเพิ่มพูนน้ำหนัก ให้ผู้ที่กำลังจะมีโชว์ครั้งใหม่อย่างเขา เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเป็นผู้ตอบคำถามที่ต้นบทความ…

เหตุผลที่ยังเลือก ‘เวที’เป็นพื้นที่ปล่อยของ

ทำไมไม่เล่าเรื่องตลกลงยูทูบ ไม่ก็ทำเป็นคลิปสั้น ง่ายกว่า แถมเสี่ยงน้อยกว่าด้วย?  เราขยายความคำถาม ก่อนที่ลินินจะตอบกลับ “หลายคนก็แนะนำผมแบบนี้ ผมเคยทำนะ แต่ก็พบว่าตัวเองไม่เหมาะ ทำแล้วสู้ใครไม่ได้ ทำแล้วไม่รู้สึกว่าคนดูสนุกไปกับเราด้วย”

อันที่จริง คอเมเดียนชาวหาดใหญ่คนนี้ เคยทำโชว์สแตนด์อัปคอเมดีผ่านช่องทางออนไลน์มาก่อน ใจจริงเขาอาจไม่อยากลอง แต่เพราะเงื่อนไขของโรคระบาด ไม่ว่าชอบหรือเกลียดอย่างไร มันก็บีบให้ลินินต้องเปิดใจเล่ามุกตลกผ่านหน้าจอ

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือตัวผู้เล่าแทบจะไม่รู้สึกสนุก หรือเชื่อมั่นในสิ่งที่เล่าเลยแม้แต่น้อย หนุ่มหน้ามนผู้มุ่งมั่นที่หน้ากล้อง ไม่อาจรับรู้ว่า ผู้ฟังที่อยู่อีกฟากของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหัวเราะไปกับสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ ทุกคนชอบ ไม่ชอบ หรือรู้สึกอย่างไร ลินินไม่เคยรู้ และเมื่อไม่รับรู้ปฏิกิริยา 

 

สิ่งที่เกิดตามมา คือคอเมเดียนตอบไม่ได้ว่ามุกนี้ผ่านแล้วหรือยัง จังหวะนี้พอไหม ควรไปต่อมุกถัดไป หรือควรขยี้มุกนี้เพิ่ม

“ความมั่นใจของผมเกิดจากการเห็นผู้ชมยิ้ม หัวเราะ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผมอยากพูดต่อ” 

แน่นอนว่า การทำคลิปสั้นในโลกออนไลน์ ไม่สามารถมอบสิ่งที่ลินินต้องการได้อย่างตรงจุด อย่างไรก็ดี เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า เด็กรุ่นใหม่อย่างเขาไม่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ทุกครั้งที่ทำโชว์ เขาเองก็บันทึกภาพเคลื่อนไหว เพื่ออัปโหลดลงแพลตฟอร์มออนไลน์เช่นเดียวกัน เพียงแต่สิ่งที่ลินินเน้นย้ำเสมอมา คือผู้ที่ตัดสินใจไปรับชมสดๆ คือกลุ่มคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา คือคุณจะเลือกรับชมผ่านยูทูบหรือ TikTok ก็ได้ แต่ลินินจะทำยังไงก็ได้ ให้คุณรู้สึก  ‘อิจฉา’ คนที่มานั่งดูตรงหน้าเวที 

“ถามจริงๆ เลยนะ มหรสพประเภทนี้ยังมีคนดูอยู่มั้ย มันยังจำเป็นมั้ยในยุคนี้ที่มีทั้งสื่อสตีมมิ่งและคลิปสั้นเต็มไปหมด”

 

มหรสพประเภทนี้ ยังจำเป็นและมีคนดูอยู่ไหม ในวันที่สตีมมิ่งและคลิปสั้นเกลื่อน?

“ผมอยากเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง ครั้งหนึ่ง ผมเคยไปนั่งดูโชว์สแตนด์อัปฯ แล้วคนที่นั่งติดกับผม เขาพูดกับเพื่อนเขาว่า โชว์ตั้ง 45 นาที ไอคนบนเวทีมันกล้าดียังไงมารบกวนเวลาคนอื่น ตั้งเกือบชั่วโมง ตอนนั้นผมก็คิดตามนะ… เออว่ะ อาชีพเรานี่ จะมองว่าเป็นการรบกวนเวลาชีวิตคนก็ได้แฮะ”

เหตุการณ์วันนั้น พาให้ลินินย้อนคิดถึงความจำเป็นของศาสตร์ที่เรียกว่า ‘สแตนด์อัปคอเมดี้’ เพราะในยุคสมัยที่นอนอยู่บ้านก็มีคอนเทนต์ให้ดู ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็หาสิ่งบันเทิง หรือความรู้มาเสพได้ตลอด ยังมีเหตุผลอะไรที่มากพอจะโน้มน้าวให้คนยอมออกจากบ้าน เพื่อมารับชมใครก็ตามเล่าเรื่องบ้าๆ บอๆ เป็นชั่วโมง 

แถมขณะรับชมยังไม่สามารถทำอย่างอื่นไปด้วยได้ ตรงข้ามกับการดูซีรีส์ที่คอนโด ซึ่งหลายคนอาจทำงานบ้าน หรือเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

คำถามนี้คงท้าทายเกินกว่าที่ใครสักคนจะกล้าตอบหรือฟันธง ลินินเองไม่มั่นใจ เพียงแต่เขายังคงเชื่อ…

“ในอนาคต บ้านเราอาจจะเหลือมหรสพแค่คอนเสิร์ตก็ได้ แต่ผมมองว่า ถ้ามหรสพมันดีจริงๆ โอกาสที่มันจะดึงคนออกจากบ้านและหน้าจอก็ยังเป็นไปได้ ถ้าเขารู้สึกว่า เขาวางโทรศัพท์ลง มาดูเรา แล้วมันคุ้มค่า เขาก็จะมา” ลินินเชื่อแบบนั้น

ไม่มีความกลัวไหน ที่มากไปกว่า ‘กลัวเสียดายถ้าไม่ได้ทำ’ 

ทั้งหมดทั้งมวลนำมาสู่โชว์ครั้งใหม่ของผู้ชายคนนี้ มหรสพที่เขาต้องการให้ผู้ชมรู้สึก ‘สบาย’ ‘คุ้มค่า’ และ ‘โชคดี’ ที่สุด โชว์ครั้งที่ 5 ในปีที่ 5 ของลินินมีชื่อว่า ลินิน เฟิร์สคลาส Stand Up Comedy

“ผมอยากให้ทุกอย่างออกมาสมกับคอนเซ็ปต์ ‘เฟิร์สคลาส’ ผมเชื่อว่า เมื่อคนดูที่รู้สึกสบายที่สุด ได้มาเจอกับเรื่องตลกที่ตั้งใจเล่าที่สุด เขาจะกลับบ้านไปอย่างสบายใจที่สุดเช่นกัน”

เพราะแบบนี้ ลินินจึงเลือกจัดโชว์ในสถานที่ที่เดินทางสะดวก ทั้งโดยรถยนต์และขนส่งสาธารณะ ยอมกู้เงินมาจ่ายค่าสถานที่ แลกกับการที่ผู้ชมจะได้นั่งดูเขาเล่าเรื่องบนเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงในโรงภาพยนตร์อย่างผ่อนคลาย

“สำหรับผม การทำให้คนหัวเราะ เตรียมบท ขึ้นไปพูดบนเวที พูดต่อหน้าคนเยอะๆ มันไม่ยากเลย การอยู่บนเวทีช่วยให้ผมมั่นใจด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ยาก คือการสร้างโชว์ขึ้นมาด้วยตัวคนเดียว ถ้าต้องพูดตรงๆ คือผมไม่มีตังค์”

ในการจัดการแสดงหนึ่งครั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ต้นทุนคือสิ่งจำเป็น หลายคนอยากจัดโชว์ แต่เมื่อไม่มีผู้ลงทุน ทุกอย่างก็จบ ความคิดสร้างสรรค์และมหรสพ ไม่อาจงอกเงยขึ้นจากหัวใจที่เปี่ยมฝัน แต่ปราศจากเม็ดเงินในโลกทุนนิยม ยกตัวอย่างโชว์ครั้งนี้ของลินิน เขาต้องฝืนใจกู้เงินเพื่อมาจ่ายค่าสถานที่ ช่องทางการขายบัตร ค่าตอบแทนของทีมงาน คนเดินตั๋ว คนรับลงทะเบียน ฯลฯ

“เรื่องที่ยากที่สุดคือสถานที่ มีที่ที่เราขอความอนุเคราะห์ มีที่ที่เราเคยขอลดราคา และมีที่ที่เราบอกเขาว่า ไม่ต้องลดก็ได้ แค่ให้เราเช่าก็พอ เพราะมันเป็นที่ที่เหมาะจะจัดจริงๆ แต่เขาตอบกลับมาว่า คนที่จะมาจัดโชว์ที่นี่ได้ต้องเป็นคนที่มีระดับ เฮ่ย! มันมีที่ที่เราเอาเงินมาให้เขา แต่เขายังบอกว่า เรามีระดับไม่พอด้วยเหรอเนี่ย!”

จนแล้วจนรอด คอเมเดียนหนุ่มผู้มีแรงใจเต็มเปี่ยมก็ตามหาสถานที่ทำการแสดงจนพบ พร้อมจบแทบทุกปัญหาได้อย่างน่าชื่นชม ครั้งนี้เขาจะจับไมค์เล่าเรื่องต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติ 250 ที่นั่ง เขายังหวั่นอยู่ลึกๆ ว่าบัตรจะขายหมดหรือไม่ กลัวจับใจว่า นับจากวันนี้จนถึงวันที่ทำการแสดงจะมีอุปสรรคอะไรมาทดสอบความสามารถของเขาอีกหรือเปล่า 

ถึงอย่างนั้น เมื่อเทียบทุกความหวั่นกลัวที่เกิดขึ้นภายในใจ ก็ยังไม่ปรากฏความกลัวไหนที่มากไปกว่า ‘กลัวเสียดายถ้าไม่ได้ทำ’

“มันคงน่าเสียดายนะที่ไม่ยอมสู้กับอะไรบางอย่างในตอนที่ตัวเองยังมีพลัง” ลินินว่า

โลกนี้มีอาชีพเป็นแสนเป็นล้าน ทำไมลินินเลือกสิ่งนี้เป็นอาชีพ? เราสงสัย “เพราะว่าดันทำมันได้ดีล่ะมั้ง ในบรรดาร้อยล้านอาชีพที่มีอยู่ นี่คือสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด”

ขอโทษนะ ใครบอกคุณแบบนั้น? เราถามซ้ำ “คนดูบอก เขาไม่ได้เดินมาบอกนะ แต่ผมคิดว่า เสียงหัวเราะของพวกเขาบอกผมตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพราะงั้นถ้าไม่ทำต่อ ผมต้องเสียดายแน่ๆ”

ติดตามรายละเอียดของ ลินิน เฟิร์สคลาส Stand Up Comedy ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ: ลินิน

Siravitch WriterSiravitch

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง