วันที่ 11 พ.ค. บีบีซีรายงานว่า กองทัพเรืออิหร่านเปิดเผยว่า มีทหารเรือเสียชีวิต 19 นาย และบาดเจ็บ 15 นาย หลังเกิดอุบัติเหตุกับเรือของกองทัพอิหร่านในอ่าวโอมาน
สื่ออิหร่านรายงานว่า เรือส่งกำลังบำรุง “โคนารัก” (Konarak) ถูกยิงด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือ ในระหว่างที่เรือรบ “จามารัน” (Jamaran) กำลังทำการซ้อมรบเมื่อวันอาทิตย์ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับท่าเรือเมืองจาสก์ ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 1,264 กิโลเมตร ในเขตอ่าวโอมาน ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางเดินเรือที่มีความอ่อนไหว ซึ่งเชื่อมระหว่างช่องแคบฮอร์มุซที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันราว 1 ใน 5 ของโลก กับอ่าวเปอร์เซีย
เว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์อิหร่านกล่าวว่า เรือโคนารัก ซึ่งเป็นเรือส่งกำลังบำรุงขนาดเบา น้ำหนัก 447 ตัน ยาว 47 เมตร ผลิตโดยเนเธอร์แลนด์ กองทัพอิหร่านซื้อเรือลำนี้มาตั้งแต่ก่อนการปฏิวัติอิสลามเมื่อปี 1979 เรือลำนี้ติดตั้งขีปนาวุธครูซ 4 ลูก และตามปกติแล้วมีลูกเรือประจำการ 20 นาย
รายงานอีกชิ้นของสื่ออิหร่านกล่าวว่า เรือลำนี้จมลงภายหลังโดนขีปนาวุธที่ยิงมาจากเรือรบจามารัน โดยระบุว่า เรือลำนี้โดนยิงหลังจากเคลื่อนย้ายเป้าซ้อมไปยังจุดหมาย แล้วเรือไม่ได้ทิ้งระยะห่างระหว่างเรือกับเป้าหมายได้ไกลพอ
สำนักข่าวทัสนิม รายงานว่า เรือโคนารักจมลงหลังถูกเรือของอิหร่านยิงโดยบังเอิญ ระหว่างการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงในพื้นที่ของเมืองจาสก์ ต่อมา กองทัพอิหร่านออกแถลงการณ์ยืนยันว่า มีลูกเรือเสียชีวิต 19 นาย บาดเจ็บ 15 นาย และว่ากำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ รายงานข่าวยังไม่มีความชัดเจนว่ามีลูกเรืออยู่บนเรือรบลำนี้กี่นายในช่วงเวลาเกิดเหตุ
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดรุนแรงครั้งที่สองที่เกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธผิดพลาดของกองกำลังอิหร่าน โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม อิหร่านตอบโต้สหรัฐฯ โดยการระดมยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพในอิรักที่ทหารอเมริกันประจำการ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ส่งโดรนยิงขีปนาวุธลอบสังหารนายพลกาซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน ใกล้กับสนามบินกรุงแบกแดดของอิรักเมื่อวันที่ 3 มกราคม
แต่กองทัพอิหร่านพลาดยิงขีปนาวุธโจมตีเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินยูเครน ที่เพิ่งทะยานขึ้นจากสนามบินในกรุงเตหะรานเพื่อไปยังกรุงเคียฟ ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งลำ 176 คน
