เหตุการณ์ประท้วงรุนแรงต่อต้านรัฐบาลในอิรัก ล่าสุดมียอดผู้ประท้วงเสียชีวิตแล้ว 104 ราย ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรวมอยู่ด้วย 8 นาย
วันที่ 8 ต.ค. 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การประท้วงในอิรักยืดเยื้อมานานกว่า 7 วัน เป็นผลมาจากความรู้สึกอึดอัดสิ้นหวังและความไม่พอใจของประชาชนชาวอิรัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ถดถอยมานานที่ภาครัฐยังไม่สามารถแก้ไขได้ส่งผลให้อัตราว่างงานยังคงสูง โดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มสาว รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดการพัฒนาและซ่อมบำรุง และ ปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย
การประท้วงเกิดขี้นในหลายพื้นที่ของอิรัก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ประท้วงเริ่มเดินขบวนไปตามท้องถนน ก่อนจะยกระดับทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นเหตุจลาจล มีการทำลายข้าวของและจุดไฟเผาสิ่งของกลางถนน ทำให้กองกำลังรักษาความมั่นคงต้องใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม มีการยิงกระสุนจริงและแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ด้านกระทรวงมหาดไทยอิรักปฏิเสธว่า เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงไม่ได้เจตนายิงไปที่ผู้ชุมนุมโดยตรง และ ไม่มีการใช้กระสุนจริงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างที่เป็นข่าว ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิรัก ได้เรียกร้องให้ประชาชนยุติการเดินขบวนและทางรัฐบาลพร้อมจะพบปะกับตัวแทนผู้ประท้วงเพื่อรับฟังข้อเรียกร้องต่างๆ ในการแก้ปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ การประท้วงครั้งนี้ถือว่านองเลือดที่สุดตั้งแต่อิรักประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มไอเอสในปี 2560
