ผู้นำที่ดี ควรเป็นยังไง?
เมื่อปี 2021 นิตยสาร Fortune เลือกให้จาซินดา อาร์เดิร์น เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จากการจัดอันดับผู้นำทั้งหมด 50 คน และตลอด 5 ปีที่จาซินดานั่งตำแหน่งนายกฯ จนถึงวันนี้ที่ประกาศลาออก เธอยังได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลกถึงภาวะผู้นำอย่างสม่ำเสมอ
กลิ่นความเจริญจะพาไปย้อนดู 5 บทเรียนผ่าน 5 เหตุการณ์ว่าทำไมชื่อ จาซินดา อาร์เดิร์น ถึงอยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ ที่คนทั่วโลกยกให้ให้เป็นผู้นำที่น่าเอาแบบอย่าง
ข้อแรก จาซินดามีทักษะการสื่อสารที่ดี ในช่วงที่ประเทศตกอยู่ในภาวะมืดมน คำพูดของผู้นำเปรียบเหมือนไฟฉาย ที่ส่องไปให้คนเดินตามแสง ในเหตุการณ์กราดยิงที่มัสยิดเมืองไครสต์เชิร์ช ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งร้อย และส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
หลังจากทางการยืนยันว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวออสเตรเลีย จาซินดาก็ออกมาแถลงการณ์ทันที โดยเธอเลือกใช้คำพูดว่า “เห็นได้ชัดแล้วว่า นี่คือเหตุก่อการร้าย” เพื่อแสดงให้เห็นถึงการไม่เลือกข้าง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด สีผิวใด หรือเพศ หากทำผิดก็จะถูกรายงานอย่างตรงไปตรงมา
ข้อที่สอง เมื่อเกิดปัญหาก็ดำเนินการอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากเหตุการณ์กราดยิงที่มัสยิดเมืองไครสต์เชิร์ช ทันทีที่เกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง จาซินดาก็ออกมาประกาศว่าจะดำเนินนโยบายแก้กฎหมายเกี่ยวกับปืน ‘ภายใน 10 วัน’ และก็เป็นตามคำพูดนั้น หลังผ่านไป 6 วันกฎหมายควบคุมการครอบครองปืนกึ่งอัตโนมัติก็ออกมาให้ได้เห็นกัน
ไม่ใช่แค่นั้น จาซินดายังทำงานร่วมกับเอมมานูเอล มาคอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเพื่อรณรงค์ให้บริษัทสื่อพัฒนาระบบที่ป้องกันเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงในโลกออนไลน์ โดยใช้ชื่อว่า “เสียงเรียกร้องไครสต์เชิร์ช” (Christchurch Call)
ข้อที่สาม ไม่ยึดติดกับทำเนียมดั้งเดิมมากเกินไป และพร้อมปรับตัวตามเทรนด์เพื่อความอยู่รอด จาซินดาได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกว่าสามารถจัดการปัญหาโควิด-19 รวมถึงเรื่องที่สื่อสารกับประชาชนในเวลาวิกฤตอย่างดีเยี่ยม
แต่นอกจากการจัดการช่วงวิกฤต จาซินดายังเดินหน้าฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศด้วยวิธีการต่างๆ อย่างเช่น เดินทางไปออกรายการ ไปออกทีวีโชว์ของสหรัฐฯ อย่าง The Late Show with Stephen Colbert เพื่อส่งสารไปทั่วโลกว่านิวซีแลนด์พร้อมกลับมาเปิดประเทศเป็นปกติแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เราจะได้เห็นผู้นำประเทศในระดับนี้ไปออกรายการโชว์ นอกจากเวทีดีเบตตอนเลือกตั้ง
ข้อที่สี่ ยอมรับความแตกต่าง คำพูดของจาซินดามักจะแสดงให้ความสำคัญของการยอมรับความแตกต่างเสมอ เช่น “We are the richer for our difference, and poorer for our division” ที่เธอไปพูดให้นักศึกษาฟังในงานรับปริญญาที่ Harvard University
นอกจากนี้ เธอยังเป็นนายกฯ คนแรกของนิวซีแลนด์ที่ร่วมเดินขบวน Pride Parade และไม่ใช่แค่สนับสนุนเชิงสัญลักษณ์ แต่รัฐบาลภายใต้การนำของจาซินดายังออกนโยบายสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ เช่น ห้ามบำบัดให้เปลี่ยนเพศ หรือให้เงินสนับสนุนเกี่ยวกับนโยบายทางเพศ
และข้อที่ห้า จาซินดาเรียนรู้ว่าตัวเองมีจุดอ่อนอะไรและพร้อมจะยอมรับมัน หนึ่งในข้อความที่จาซินดาพูดระหว่างประกาศลาออกจากตำแหน่งคือ “ดิฉันลาออก เพราะบทบาทอันทรงเกียรติเช่นนี้ มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบที่ต้องรู้ว่าเวลาใดคุณคือคนที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำ และเวลาใดที่คุณไม่ใช่”
ในฐานะผู้นำ ซึ่งเป็นผู้กุมบังเหียนชีวิตของคนทั้งประเทศ การเรียนรู้ว่าตัวเองไม่อยู่ในจุดที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่อีกต่อไป แล้วพร้อมเปิดทางให้คนที่เหมาะสมกว่าเข้ามาทำงานที่เหมาะสมกับคนนั้นๆ ย่อมส่งผลดีต่อคนในวงกว้าง แม้จะน่าเสียดาย แต่สำหรับจาซินดานี่จึงเป็นการลงจากตำแหน่งในเวลาที่เหมาะสม และสง่างามสำหรับเธอแล้ว
ติดตามรายการกลิ่นความเจริญได้ที่ https://youtube.com/playlist?list=PLGNrke-J6zF38vOTPXVcs6HKEodqsRi7D
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-64327224
https://www.labour.org.nz/news-jacindaardern-leadership
https://www.bbc.com/thai/international-47658460
https://www.marieclaire.co.uk/entertainment/people/jacinda-ardern-popularity-715953
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์










