แหล่งข่าวเผยข้อมูลจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ เรื่องการนำวัคซีน mRNA มาฉีดกระตุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
วันที่ 13 ต.ค. 2564 เว็บไซต์ Axios รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าววงในของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (National Institutes of Health หรือ NIH) โดยพบข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า หากผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดฉีดเข็มเดียวของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson and Johnson) ไปแล้ว ได้รับวัคซีนฉีดกระตุ้นเป็นชนิด mRNA จะสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าการฉีดกระตุ้นโดยใช้จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ตัวเดิม
ตามรายงานระบุว่า ทาง NIH มีแผนที่จะเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration หรือ FDA) ในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ FDA จะพิจารณาเรื่องฉีดกระตุ้นวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) และวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
โดยปัจจุบัน FDA ยังอนุมัติให้มีการฉีดกระตุ้นเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าการที่ตัวบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะยื่นขอใช้วัคซีนตนเองในการฉีดกระตุ้น ขณะที่ NIH ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐจะนำเสนอข้อมูลให้นำวัคซีนยี่ห้ออื่นมาฉีดไขว้ จะเป็นการขัดแย้งกันเองหรือไม่
ในส่วนของวัคซีนโมเดอร์นาที่จะพิจารณาเรื่องฉีดกระตุ้นนั้น มีรายงานออกมาว่า มีโอกาสที่จะไม่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากวัคซีน 2 โดสนั้นยังมีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันอยู่ แม้การฉีดกระตุ้นโดสที่ 3 จะช่วยป้องกันได้ดีขึ้น แต่อาจถือว่าไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ไม่เหมือนกับวัคซีนไฟเซอร์ที่ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อลดลงเกือบครึ่งหลังผ่านไป 6 เดือน










