นายกฯ อังกฤษและรัฐมนตรีคลังถูกปรับเงินจากความผิดในการละเมิดกฎล็อกดาวน์ หลายฝ่ายประสานเสียงเรียกร้องให้ลาออก
วันที่ 12 เม.ย. 2565 สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า ตำรวจสหราชอาณาจักรได้ออกมายืนยันว่าจะมีการสั่งปรับเงิน นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน และภริยา รวมถึง ริชี่ สุนัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังจากพบว่าทั้ง 3 คนได้ละเมิดกฎหมายในช่วงของการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2563
ทางตำรวจระบุว่า ได้สั่งปรับผู้กระทำผิดรวมกว่า 50 รายด้วยกัน แต่สามารถเปิดเผยชื่อได้เพียง 3 รายเนื่องจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่าจะเปิดเผยชื่อหากว่านายกฯ จอห์นสันและนายสุนัคเป็นหนึ่งในผู้กระทำผิด ขณะที่โฆษกประจำตัว แคร์รี จอห์นสัน ภริยานายกฯ ก็ได้ออกมายืนยันว่ามีการสั่งปรับนางจอห์นสันเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นร้อนในสภาของสหราชอาณาจักร เนื่องจากฝ่ายค้านมองว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ผู้ออกกฎหมายมาบังคับให้คนทั่วประเทศปฏิบัติตาม กลับเป็นผู้ละเมิดกฎเสียเอง
ด้านเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ออกมากล่าวว่า นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพรรคคอนเซอร์เวทีฟไม่มีความเหมาะสมที่จะบริหารบ้านเมืองอีกต่อไป สหราชอาณาจักรควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ บอริส จอห์นสัน และ ริชี่ สุนัค ทำผิดกฎหมายและโกหกซ้ำๆ ต่อสาธารณชน พวกเขาทั้งคู่ต้องลาออก
ขณะที่ นิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ ก็เป็นอีกคนที่ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำอังกฤษลาออกเช่นกัน โดยชี้ว่า คุณค่าเบื้องต้นในด้านความซื่อสัตย์และความเหมาะสม เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา เขาจึงควรที่จะลาออกไปพร้อมกับรัฐมนตรีของเขา
ล่าสุดทางนายกฯ จอห์นสันและนายสุนัคได้ออกมากล่าวขอโทษในเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง










