KCG ประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 405.8 ล้านบาท เติบโต 32.7% YoY ยอดขาย 7,743.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% โดยทั้งยอดขายและกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งนับจากก่อตั้งธุรกิจในปี 2501 หลังจากที่เคยทำสถิติสูงสุดไว้ในปี 2566 เชื่อมั่นผลประกอบการปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเสนอจ่ายเงินปันผลรอบผลประกอบการปี 2567 หุ้นละ 0.41 บาท ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2568
‘ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังครองอันดับ 1 ส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์เนยและผลิตภัณฑ์ชีสในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 มียอดขาย 2,516.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% และมีกำไรสุทธิ 162.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 4 ของทุกปีเป็นฤดูกาลขายของบริษัทฯ ซึ่งทั้งลูกค้าในกลุ่ม B2C และ B2B มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง จากการจับจ่ายใช้สอยจากภาคการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HORECA)
ยอดขายและกำไรในปี 2567 ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เคยทำสถิติสูงสุดไว้ในปี 2566 จากการการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และทุกช่องทางการจำหน่าย และเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบผลประกอบการปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.41 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 55.1% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 53.4% โดยจะนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2568 ต่อไป
“ในปี 2568 บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการดำเนินธุรกิจภายใต้แผนกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่ 1. Growth Strategy 2. Transition Strategy และ 3. Sustainable Strategy โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และทุกช่องทางการจำหน่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย ที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจและขยายการเติบไปพร้อมกับการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”










