เป็นอีกหนึ่งธนาคารที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน และมีแผนธุรกิจในระยะ 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) ในการทำเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความยั่งยืนตามแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำของโลก จัดงานสัมมนา Krungsri-MUFG ESG Symposium 2024 ถ่ายทอดองค์ความรู้เเกี่ยวกับ ESG
‘เคนอิจิ ยามาโตะ’ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางฉบับที่ 4 ระหว่าง 3 ปี (2567-2569)ธนาคารกรุงศรี ตั้งใจจะเป็น ‘ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน’
โดยนำกรอบแนวความคิด ESG มาปรับใช้ทั้งการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนมุ่งมั่นให้การสนับสนุนและส่งเสริมลูกค้าธุรกิจให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่การดำเนินงานด้าน ESG อย่างแท้จริงผ่านกิจกรรมต่างๆ และตั้งเป้าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน 100,000 ล้านบาท (จากปีฐาน 2564)
และภายในปี 2573 ซึ่งก็สอดคล้องกับเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและพันธกิจของ MUFG ในการสร้างอนาคตที่สดใส (Committed to Empowering a Brighter Future) ด้วยการผลักดันการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การเป็นธนาคารที่มีความรับผิดชอบ และพัฒนาชุมชน
ด้าน ‘ริชาร์ด ยอร์ก’ Executive Officer & Head of Global Corporate & Investment Banking, Asia Pacific, MUFG Bank กล่าวว่า ในฐานะสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นสถาบันการเงินชั้นนำอันดับ 7 ของโลกในด้านสินทรัพย์ MUFG จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโล
โดยงานสัมมนานี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม MUFG’s Net Zero World หรือ MUFG NoW ที่จัดขึ้นในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย อินเดีย มาเลเซีย และเวียดนาม
ที่จะจุดประกายพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อเร่งดำเนินการสู่เป้าหมาย Net Zero ในระดับโลก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากที่สุดในโลก ซึ่งก็แลกมาด้วยการเผชิญกับภาวะการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเช่นกัน
สำหรับภายในงานสัมมนา Krungsri-MUFG ESG Symposium 2024 แบ่งเป็นสองเวทีเสวนาใหญ่ ได้แก่
เวทีที่ 1 : Net Zero World ซึ่งฉายภาพทิศทางของโลกเรื่องการสร้างความยั่งยืน และวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการลดก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งแนวทางการสร้างความยั่งยืนขององค์กรขนาดใหญ่ของไทย
เวทีที่ 2 : Transition in Action ช่วยจุดประกายการทำธุรกิจตามแนวทาง ESG ให้แก่ผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ภายในงานยังมีนิทรรศการ Road to Sustainability ที่จะนำพาทุกท่านรู้จักกับแนวคิดและวิถีเส้นทางสู่ความยั่งยืนที่ครอบคลุมในทุกมิติ ตั้งแต่ข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเวทีโลกที่ส่งผลต่อภาพรวมการทำธุรกิจ
ตลอดจนแนวทางของแต่ละประเทศในเอเชียและองค์กรในประเทศไทยในการลดก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมาย Net Zero และแนวทางที่ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อจะอยู่รอดได้ในสนามแข่งขันในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ยังมีบูธนำเสนอโซลูชันเพื่อความยั่งยืนที่พร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการในการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจ
และนี่คืออีกก้าวสำคัญของธนาคารไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนและนำเสนอสิ่งดีๆ ออกมาสู่สังคมไทย










