ฝรั่งเศสเตรียมยกเลิกมาตรการแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบ ต้องใช้หลักฐานฉีดวัคซีนเท่านั้น ขณะที่ประธานาธิบดีมาครงสัมภาษณ์เดือดตำหนิผู้ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน
วันที่ 5 ม.ค. 2565 สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ออกมากล่าวโจมตีกลุ่มคนที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยใช้คำพูดที่ก้าวร้าวรุนแรง พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำให้ชีวิตของคนเหล่านี้ยากลำบากไปจนถึงที่สุด
ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ เลอ ปารีเซียง ประธานาธิบดีมาครงกล่าวว่า เขาต้องการทำให้คนที่ไม่ฉีดวัคซีนโกรธ มีการวางแผนที่จะทำให้ชีวิตของคนเหล่านี้ยุ่งยาก จนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนในที่สุด โดยจะไม่มีการส่งคนเหล่านี้เข้าคุก แต่นับจาก 15 ม.ค. เป็นต้นไป พวกเขาจะไม่เข้าไปในร้านอาหาร ร้านอาหาร โรงละคร หรือโรงภาพยนตร์ได้
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวโจมตีว่าคนกลุ่มนี้ไม่มีความรับผิดชอบ และคนที่ไม่รับผิดก็ไม่ใช่พลเมืองอีกต่อไป
หลังจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวถูกตีพิมพ์ออกมา ฝ่ายค้านของฝรั่งเศสได้ออกมาโจมตีคำพูดของประธานาธิบดีมาครง โดยระบุว่าเขาไม่คู่ควรกับตำแหน่งประธานาธิบดีอีกต่อไป
คริสเตียน จาค็อบ สภาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านออกมากล่าวว่า คนที่เป็นประธานาธิบดีจะใช้คำพูดแบบนี้ไม่ได้ แม้ตัวเขาเองจะสนับสนุนให้มีการแสดงหลักฐานฉีดวัคซีน แต่เขาไม่สามารถสนับสนุนถ้อยคำเหล่านี้ ที่มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ชาวฝรั่งเศสโกรธได้
ฝรั่งเศสนับเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนมากที่สุดประเทศหนึ่งในสหภาพยุโรป กว่า 90% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 โดส
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ฝรั่งเศสมีมาตรการให้ผู้เข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือหลักฐานผลตรวจเชื้อเป็นลบ
แต่หลังจากที่เริ่มเกิดการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตาและโอไมครอน ทางรัฐบาลต้องการที่จะตัดทางเลือกในการแสดงผลตรวจโควิดออก เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น










