รัฐบาลมาเลเซียรับฟังข้อเสนอแนะจากโรงพยาบาลเอกชน เตรียมเปิดช่องให้นำเข้าวัคซีนโควิด-19 เป็นโครงการคู่ขนานไปกับทางรัฐ
วันที่ 29 มี.ค. 2564 เว็บไซต์สเตรตส์ไทมส์ (Straits Times) ของสิงคโปร์รายงานว่า รัฐบาลมาเลเซียจะอนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชนเปิดการเจรจากับผู้จัดจำหน่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อนำเข้าด้วยตนเอง หลังได้รับคำร้องขอจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชนแห่งมาเลเซีย เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ต้องการจ่ายค่าวัคซีนเอง ควบคู่ไปกับวัคซีนฟรีของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของมาเลเซีย เตือนว่าโรงพยาบาลเอกชนอาจต้องรอจนถึงครึ่งหลังของปี 2564 จึงจะเริ่มดำเนินการได้ เนื่องจากวัคซีนในตลาดโลกยังคงขาดแคลนอยู่
ปัจจุบัน รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งจองวัคซีนไว้เพียงสำหรับประชากรทั้งหมดแล้ว มีการนำเข้าวัคซีนจาก ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) ซิโนแวค (Sinovac) แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และ สปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V) โดย 3 ตัวแรกได้รับอนุมัติให้ใช้งานในกรณีฉุกเฉินแล้ว
จนถึงตอนนี้ บุคลากรแนวหน้าในมาเลเซียที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะสัมผัสกับเชื้อ ได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว 580,000 คน และตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้กลุ่มแนวหน้าทั้งหมด 647,398 คนภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากนั้นจะเริ่มฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุต่อไป










