รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียออกมาตำหนิการกระทำของจีนออกสื่อ พร้อมเผยว่าชาติอาเซียนอาจเอนเอียงไปทางมหาอำนาจขั้วใดขั้วหนึ่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างต่างประเทศของมาเลเซีย ได้เปิดเผยต่อสภาว่า เขาได้ยื่นหนังสือคัดค้านการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ของจีน ต่อทางสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น แล้ว เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยเนื้อหาหลักเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยต่อหนังสือที่จีนยื่นเพื่ออ้างสิทธิ์เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ปีที่แล้ว
นายฮุสเซนแถลงต่อสภาว่า มาเลเซียขอคัดค้านจีนที่อ้างสิทธิ์ตามประวัติศาสตร์เหนือน่านน้ำบริเวณดังกล่าว และมีความเห็นว่าจีนไม่มีหลักฐานใดๆ เลยตามหลักกฎหมายนานาชาติ
ตามรายงานระบุว่า การที่มาเลเซียออกมาคัดค้านในลักษณะนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เนื่องจากพวกเขาหลีกเลี่ยงความขัดแย้งแบบเปิดเผยกับจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่มาโดยตลอด
แต่หลังจากที่สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ออกมาแสดงความต้องการที่จะเข้ามาแทรกแซงอย่างชัดเจน อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มาเลเซียกล้าออกมารักษาสิทธิ์ของตัวเอง ด้วยการยื่นเอกสารคัดค้านสิ่งที่จีนยื่นไปเมื่อ 8 เดือนก่อน
Just spoke on the phone with 🇺🇸 U.S. Secretary of State @SecPompeo – both agreed to focus efforts on the manufacturing & distribution of the #COVID19 vaccine, once it is readily available. Also discussed regarding the #SouthChinaSea which must remain a sea of peace and trade. pic.twitter.com/pDZwevXiS7
— Hishammuddin Hussein 🇲🇾 (@HishammuddinH2O) August 6, 2020
นอกจากนี้นายฮุสเซนยังได้เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าตัวเขาและ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้มีการหารือกันผ่านทางโทรศัพท์ โดยเนื้อหาหลักเป็นการพูดคุยกันถึงแผนการผลิตและจัดส่งวัคซีนโควิด-19 รวมไปถึงประเด็นเรื่องการรักษาความสงบและความเป็นพื้นที่ทางการค้าของทะเลจีนใต้เอาไว้
นอกจากมาเลเซียแล้ว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และบรูไน ก็เป็นชาติอาเซียนที่ไม่เห็นด้วย กับการอ้างสิทธิ์ครอบครองทะเลจีนใต้ว่าเป็นของจีนเช่นกัน ซึ่งนายฮุสเซนกล่าวเสริมว่า ถ้าดูจากแนวโน้มและแรงกดดันของชาติมหาอำนาจ มีโอกาสสูงทีเดียวที่ชาติอาเซียนจะเอนเอียงไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่ง










