ชาว T-POP เตรียมปักเมน! ‘MCHOICE TRAINEE’ คลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตา

ชาว T-POP เตรียมปักเมน! ‘MCHOICE TRAINEE’ คลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตา

หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน ‘Mchoice & Mint Awards 2025’ ก็เรียกสายตาจากทุกคนได้ทันที 

สำหรับ MCHOICE TRAINEE ศิลปินไอดอลน้องใหม่ 6 หนุ่มพลังเต็มแม็กซ์ ที่ประกอบด้วย แซม-พฤฒิชัย, เลออน-เซ็ค ,พาย-ฐิติกร, พี-พีรดนย์, ติวเตอร์-วีรฤทธิ์ และ เบ็น-ภัทรกิจ 

ครั้งนี้ TODAY Play พาทุกคนไปทำความรู้จักตัวตนของ 6 หนุ่ม ให้มากกว่าเดิม ทั้งเรื่องราวจุดเริ่มต้น ความแตกต่างของแต่ละบทบาท ไปจนถึงสิ่งที่พวกเขาอยากบอกกับตัวเองในอนาคต 

Q : จุดเริ่มของ MCHOICE TRAINEE 

เลออน เซ็ค : จุดเริ่มต้นก็คือ ‘พี่ก้อง กฤษฏิ์’ (ผู้บริหารค่าย MCHOICE) เห็นแพชชั่นของพวกเราทั้ง 6 คน เลยดึงมาอยู่รวมกันในโปรเจกต์นี้ MCHOICE TRAINEE  ครับ โดยคนแรกคือ พี่แซมครับ (หัวเราะ) 

แซม พฤฒิชัย : พี่ก้องเจอแซมผ่านอินสตาแกรมครับ เเละก็ติดต่อมาสอบถามว่า “อยากลองมาทำงานด้วยกันไหม” ผมก็เลยลองดูครับ ตอนแรกมาในฐานะนักแสดงครับ แต่จริงๆ ผมก็มีแพชชั่นด้านการเป็นศิลปินเหมือนกันครับ เลยตัดสินใจเข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้เป็นคนแรกครับ

เลออน เซ็ค : เลออนเข้ามาเป็นคนที่ 2 ครับ ตอนนั้นอยู่ที่ขอนแก่นและเป็นอินฟลูฯ ตัวเล็กๆ คนหนึ่งครับ (หัวเราะ)

ตอนนั้นก็แค่ถ่าย TikTok เล่นๆ แล้วเกิดมีคลิปหนึ่งดันแมสขึ้นมา พี่ก้องก็มาเจอคลิปนั้น และเห็นว่าคาแรคเตอร์ผมน่าสนใจครับ อยากจะเอามาอยู่ในโปรเจกต์นี้ พี่ก้องเลยติดต่อมา 

พี พีรดนย์ : พีเป็นคนที่ 3 ครับ (ยิ้ม) ตอนนั้นพีเป็นนักเต้นโคฟเวอร์แดนซ์ครับ แล้วพี่ก้องได้เห็นคลิปพีเต้นเพลงวง T-POP วงนึงเลยติดต่อมาให้พีลองเข้าไปออดิชั่นโปรเจกต์นี้ดูครับ

พาย ฐิติกร : ต่อไปพายเองครับ (หัวเราะ) ตอนนั้นพายเป็นแดนเซอร์ครับ แล้วพี่ก้องเจอผมที่คอนเสิร์ตนึงแล้วสนใจ เลยเข้าไปเจอผมที่หลังเวที แล้วผมสนใจพอดีก็เลยเข้ามาลองดูครับ 

ติวเตอร์ วีรฤทธิ์ : ก็เหมือนกันกับทุกคนเลยครับ พี่ก้องมาเจอผมพอดี ก็เลยลองชวนมาเทสดูว่าผมชอบโปรเจกต์นี้ไหม ซึ่งพอได้มาเจอกับทุกคนผมรู้สึกโอเคครับ เลยตัดสินใจเข้าร่วม

เบ็น ภัทรกิจ : ผมคนสุดท้ายครับ (ยิ้ม) เบ็นเคยเป็นนักแสดงมาก่อนครับ พี่ก้องสนใจ เลยชวนผมเข้ามาร่วมโปรเจกต์นี้ และผมก็ตัดสินใจมาเลยครับ เพราะเป็นทางที่ผมชอบด้วย และเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยครับ

Q : ‘แซม, เลออน และ เบ็น’ ผ่านซีรีส์มาแล้ว แต่ครั้งนี้กำลังจะได้มาเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัว มีความยากและท้าทายจุดไหนไหม

แซม พฤฒิชัย : ในเรื่องการทำงาน ระหว่าง พาร์ทการแสดงเเละการเป็นศิลปิน ถือว่าแตกต่างกันมากๆ ครับ การแสดงมันคือการเข้าไปเป็นตัวละครนั้นๆ

แต่ในการเป็นศิลปิน คือการเป็นตัวเอง และส่งต่อในสิ่งที่เราอยากจะสื่อสารให้คนอื่นๆ ได้เห็นครับ ซึ่งทั้งสองอย่างมันต่างกันมากๆ แต่ผมรู้สึกว่าพวกเราสามารถนำเสนอให้สนุกไปด้วยกันได้ทั้งสองอย่างครับ 

เบ็น ภัทรกิจ : เบ็น มองว่าการเป็นนักแสดงกับการเป็นไอดอล หรือ ศิลปิน แตกต่างกันครับ

อย่างที่พี่แซมบอกครับ การทำงานมันต่างกันแบบคนละขั้วเลยครับ แต่สำหรับผมไม่ค่อยมีปัญหากับเรื่องการปรับตัวสักเท่าไหร่ เพราะว่าผมอยู่ง่ายครับ (หัวเราะ) 

แต่ถ้าเรื่องความยากของผม ยกให้เรื่องการพัฒนาสกิล ถือว่ายากสำหรับผมเลยครับ 

เลออน เซ็ค : รู้สึกว่าสองด้านนี้ต่างกันมากครับ ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ใน GELBOYS ผมรู้สึกว่าสามารถเป็น ‘ตัวเอง’ หรือ ‘ตัวละคร’ ก็ได้ครับ หรือจะอยู่ ‘กึ่งกลาง’ ยังไงก็ได้ ซึ่งตอนนั้นคนรักทั้งตัวละครแล้วก็ตัวเราด้วย 

แต่เมื่อมาลองฝึกเป็น เทรนนี่ ผมรู้สึกว่าต้องผลักดันตัวเองมากขึ้น เนื่องจากเรามาอยู่ในจุดที่เขาเรียกเราว่า ‘ไอดอล’ เราก็ต้องเป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิต ให้กับหลายๆคน

ต้องใช้ความสามารถ ทั้งด้านเสียง ร้องเพลง และการเต้น ที่มากกว่าเดิม รวมถึงจำนวนคนที่เปลี่ยนจาก 4 เป็น 6 คน ก็ต้องมีความพร้อมเพรียงมากขึ้น ซึ่งต้องใช้ทีมเวิร์คที่หนักขึ้นด้วยครับ มีภาพที่เราต้องไปด้วยกันกับวง อาศัยความโฟกัสที่มากขึ้น ถือเป็นอีกความท้าทายหนึ่งในวงการนี้ครับ

Q : จากแดนซ์เซอร์สู่บทบาทศิลปิน ที่ต้องทั้งร้องและเต้น สำหรับ พาย มีความท้าทายตรงไหนบ้างไหม

พาย ฐิติกร : เรื่องเต้นผมถือว่าพอได้ครับ แต่อาจจะยังไม่ได้เก่งถึงขั้นที่สุด แต่เรื่องที่ท้าทายสำหรับผมจะหนักไปทางเรื่องร้องมากกว่าครับ (ยิ้ม)

ก่อนหน้านี้ ตอนผมเป็นแดนเซอร์ผมไม่เคยร้องเพลง เเละไม่เคยเรียนร้องเพลงมาก่อนเลยครับ แต่พอได้เข้ามาในโปรเจกต์นี้แล้ว ได้ฟังทั้ง ‘พี่แซม’ และ ‘ติวเตอร์’ ร้องเพลงรู้สึกเขาเก่งมากเลยครับ 

ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องผลักดันตัวเองมากขึ้น และต้องพัฒนาตัวเองในทุกด้าน ทั้งแรป เต้น และร้อง ด้วยครับ ความยากเลยอยู่ตรงนี้ครับ

Q : พี จากเด็กเต้นโคฟเวอร์ สู่การฝึกฝนการเป็นศิลปินแบบจริงจัง เป็นอย่างไรบ้าง 

พี พีรดนย์ : ก็น่าจะยกให้ความยากในเรื่องการพัฒนาสกิลเหมือนกันครับ และอีกอย่าง คือพีเองไม่ได้เต้นโคฟเวอร์แล้ว แต่กำลังเต้นเพลงของตัวเอง ซึ่งต้องแสดงความเป็นตัวเองออกไปให้เยอะที่สุด

พี เองก็ยังต้องพัฒนาทั้ง เรื่องการร้องเพลง การเต้น และทุกอย่างเลยเพื่อตามเพื่อนๆ ให้ทัน พียังคงต้องพัฒนาอีกเยอะเลยครับ

Q : การกลับมาในฐานะ MCHOICE ของ ติวเตอร์ มีความแตกต่างจากเดิมไปอย่างไรบ้าง 

ติวเตอร์ วีรฤทธิ์ : การทำงานแตกต่างกันมากเลยครับ จาก 2 คน และ คนเดียว มาเป็น 6 คน เหมือนกับว่าตอนนั้นเราทำงาน ด้วยการ ปล่อยทุกอย่างออกมาจากตัวเองหมด 

เตอร์ทั้งโปรดิวซ์เอง แต่งเพลงเอง รู้สึกว่าสามารถใช้ความเป็นตัวเองได้ 100% กับงานในตอนนั้น แต่พอมาอยู่ด้วยกัน 6 คน และมีคำว่าบอยแบนด์อยู่ เราต้องพยายามหาจุดกึ่งกลางที่ยังมีความเป็นตัวเองอยู่ และยังมีความเป็นทีมอยู่ด้วย ก็เลยรู้สึกว่าแตกต่างกันตรงนี้ครับ

ช่วงแรก เตอร์ ปรับตัวยากมาก ทั้งการร้อง การเต้น เพราะเวลาร้องรวมกัน จะกลายเป็นเราโดดมาอยู่คนเดียว ก็เลยต้องพยายามปรับจูน ลดตรงนี้ เพิ่มตรงนั้น ค่อนข้างเยอะครับ 

Q : MCHOICE TRAINEE สิ่งที่อยากบอกกับตัวเองในอนาคต เมื่อได้เดบิวต์เป็นศิลปินเด็มตัว

ติวเตอร์ วีรฤทธิ์ : โอเคมันเหนื่อยหน่อย ทั้งงาน ทั้งการเรียน แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่ เรารัก เราอยากทำ เราหลงใหลในเสียงเพลง ดังนั้นสู้ต่อไป แล้วก็อย่าหยุดพัฒนาตัวเองครับ

พี พีรดนย์ : ขอบคุณที่อดทน ขอบคุณที่เหนื่อย ขอบคุณที่ยังสู้กับมันต่อ ขอบคุณครับ 

แซม พฤฒิชัย : อย่าลืมจุดประสงค์แรกที่เราเข้ามา แล้วก็อย่าลืมสนุกกับมัน

พาย ฐิติกร : เก่งมากแล้วที่ผ่านมาถึงจนจุดนี้ได้ ขอบคุณตัวเองมากๆ ที่ไม่ยอมหยุดพัฒนาตัวเอง ไม่ยอมทิ้งอนาคตตัวเอง ขอบคุณมากๆ ครับ พาย เย้!

เบ็น ภัทรกิจ : เก่งมากครับ ขอบคุณที่ตั้งใจทำงานอย่างหนัก  และอย่าหลงระเริง อย่าลืมว่าตัวเองเคยชอบ และรักมันมากแค่ไหน เลือกที่จะมาตรงนี้แล้วอย่าท้อง่ายๆ อย่าไปเครียดกับมัน จนแบบ เกลียดมันไปเลย

เลออน เซ็ค : อย่าลืมว่าวันแรกที่เราก้าวสู่วงการใครอยู่รอบข้างเราบ้าง ใครที่อยู่ข้างหลังเรา และคอยดูแลเรา อย่าลืมคนกลุ่มแรกที่เป็นเดย์วันของเรา 

ไม่รู้ว่าตัวเองในอนาคตจะอยู่จุดไหนตอนนี้ แต่ขอให้ดีใจ และรู้สึกว่ามันมีเหตุผลที่เราอยู่ตรงนั้น ทุกอย่างที่เราพยายามมา ไม่ต้องเสียดายเลย เพราะมีเหตุผลแล้วที่เราอยู่จุดนั้น เราอยากไปอยู่จุดนั้นครับ

Q : ตัวตนแบบไหนของทั้ง 6 คน ที่คิดว่าแตกต่างจากศิลปิน T-POP วงอื่นๆ 

ติวเตอร์ วีรฤทธิ์ : ผมขอเป็นตัวแทนตอบครับ สำหรับวงเรา เป็น หนึ่งวงที่ไม่ได้ตั้งใจไว้ว่า เราต้องสู้กับใคร เราต้องสู้กับคนอื่นไหม หรือเราต้องทำผลงานออกมาเพื่อแข่งขัน 

แต่วงเราคือ เราผลิตผลงานศิลปะออกมาเพื่อให้คนดู หรือ คนที่ติดตามพวกเรา ได้เสพผลงานและชื่นชอบ ได้รับความสนุกจากที่พวกเราที่ส่งไปให้ นี่คือจุดเด่นของพวกเราที่น่าจะไม่เหมือนใคร

และความเป็นพวกเรา มันมีบางอย่างที่รวมตัวกันกลายเป็นพวกเราทั้ง 6 คน ผมคิดว่านี่เเหละน่าจะเป็นหนึ่งจุดแข็งแกร่งในวงนี้ 

 

Q : อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ที่รอคอย MCHOICE TRAINEE บ้างไหม

เบ็น ภัทรกิจ : ฝากพี่ๆ แฟนๆ ติดตามพวกเรา MCHOICE TRAINEE ด้วยนะครับผม พวกเราตั้งใจกันมาก และพยายามทำงานกันอย่างหนักเลยครับ

ซึ่งพวกเราก็มีรายการ MCHOICE TRAINEE ‘ROAD TO DEBUT’ สามารถติดตามชมกันได้ทางยูทูป MCHOICE TH ได้เลยนะครับ และเรายังมีเพลง Masterpiece ด้วยครับ สามารถติดตามได้ทุก Streaming Platform ครับผม

TODAY PLAYWriterTODAY PLAY
workpointTODAY PLAY for ONLINE ONLY | วาไรตี้เพื่อคุณ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง