
วันที่ 7 พ.ค.63 บลูมเบิร์กรายงานว่า เม็กซิโกกำลังประสบปัญหาเบียร์ขาดตลาดอย่างหนัก จนผลให้เกิดการโก่งราคาขึ้นหลายเท่าเช่น แบรนด์ Tecate ที่ราคาในตลาดพุง่สูงกว่า 12% ด้านนายฮวน ฟอนเซกา หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนของ Femsa ผู้ประกอบการธุรกิจร้านสะดวกซื้อเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกาเผยว่า เบียร์ตามร้านค้าต่างๆ ในเม็กซิโกถูกกวาดซื้ออย่างรวดเร็ว หลังจากที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพแห่งชาติเมื่อปลายเดือนมีนาคมและเรียกร้องให้หยุดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นซึ่งรวมถึงการผลิตสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จนโรงงานหลายแห่งต้องหยุดผลิตชั่วคราว
โดยนายฟอนเซกาเผยว่า จากการประเมินในเบื้องต้น เบียร์ที่อยู่ในคลังสินค้าของบริษัทจะหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่เกิน 10 วัน และยังไม่สามารถบอกได้ว่าทางโรงงานจะกลับมาเริ่มผลิตเบียร์อีกครั้งเมื่อใด ด้านนายเอดูอาร์โด้ ปาดินญ่า CEO ของ Femsa กล่าวว่า “ผมคิดว่ารัฐบาลอาจกลัวถ้าประชาชนรวมตัวกันดื่มเบียร์ พวกเขาจะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างกันมากขึ้น”
ทางด้านสมาคมพ่อค้ารายเล็กกล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดราคาเบียร์ในเม็กซิโกโดยรวมพุ่งสูงขึ้น 30% ทางผู้ผลิตเบียร์เองได้เริ่มยื่นเรื่องต่อรัฐบาลเพื่อขออนุญาตเปิดสายพานการผลิตอีกครั้ง และเน้นการพึ่งพาร้านค้าเล็กๆ ในการขายเบียร์ โดยนายปาดินญ่ากล่าวเสริมว่า “นี้เป็นสิ่งที่ผมกังวลใจมาก อย่างที่รู้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงชีพด้วยการขายเบียร์ และร้านค้าเล็กๆ”
ด้านนางลอเรน ลีเบอร์แมน บาร์เคลย์สจากบาร์เคลย์สกล่าวว่า Constellation Brands Inc. ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของสหรัฐเมริกา บริษัทผู้ผลิตเบียร์โคโรนา ที่มีฐานการผลิตอยู่ในเม็กซิโกนั้น มีเบียร์เพื่อรองรับความต้องการในตลาดไม่เกินสิ้นเดือนตุลาคม









