หลายชาติยุโรปเร่งให้มีการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม หลังเห็นภาพชาวเมืองในยูเครนนอนตายบนท้องถนน
วันที่ 4 เม.ย. 2565 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า รัฐบาลหลายชาติในสหภาพยุโรป (European Union) กำลังผลักดันให้มีการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มต่อรัสเซีย หลังจากมีรายงานว่ากองทัพรัสเซียกระทำการสังหารหมู่พลเรือนยูเครนบริเวณรอบกรุงเคียฟ
แหล่งข่าวทางการทูตเปิดเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้เตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อปิดช่องในส่วนที่ได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียไปก่อนหน้านี้ ทั้งด้านการส่งออกเทคโนโลยี รวมไปถึงการคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียเต็มรูปแบบ แต่หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของชาวเมืองที่เสียชีวิตอยู่บนท้องถนนในยูเครน ก็ได้มีการเรียกร้องให้ลงโทษรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ยังมีชาติสมาชิกส่วนหนึ่งที่มีความเห็นว่า มาตรการนอกเหนือจากที่ออกไปแล้ว ควรจะนำมาใช้ในกรณีที่รัสเซียใช้อาวุธเคมี หรือทำการยึดหัวเมืองหลักเท่านั้น
ล่าสุดทางประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เขารู้ถึงการที่ชาติตะวันตกจะออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่ม เพื่อเป็นการตอบโต้การสังหารหมู่พลเรือน แต่เขาระบุว่ายังเป็นการลงโทษรัสเซียไม่พอ
ผู้นำยูเครนชี้ว่า มีผู้คนนับร้อยที่ถูกสังหารในเมืองบูชา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ รวมถึงเมืองอื่นๆ โดยรอบ
ขณะที่ ดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนยืนยันว่า ต้องการให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court) เข้ามาตรวจสอบในเรื่องที่รัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในเมืองบูชา รวมถึงเมืองอื่นๆ ที่รัสเซียเข้ามายึดครองโดยรอบ
ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ปฏิเสธที่จะส่งตัวแทนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่ยูเครนได้ยื่นฟ้องในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม อีกทั้งยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ที่สั่งให้หยุดการรุกรานยูเครน
ส่วนในครั้งนี้ ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธเรื่องการสังหารหมู่ โดยระบุว่าเป็นข่าวปลอมที่ยูเครนจัดฉากขึ้น เพื่อเป็นการยั่วยุรัสเซียเท่านั้น










