
ทางการอินโดนีเซียสั่งห้ามชาวบ้านและนักเดินป่าเข้าทำกิจกรรมในพื้นที่โดยรอบ 3 กิโลเมตร หลังภูเขาไฟเมราปี ปะทุพ่นลาวาสูงถึง 950 เมตร
วันที่ 14 ส.ค. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางการอินโดนีเซียสั่งห้ามชาวบ้านและนักเดินป่าทำกิจกรรมในพื้นที่ 3 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟเมราปี (Mount Merapi) ภูเขาไฟความสูง 2,968 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดชวากลางและจังหวัดยอกยาการ์ตา หลังภูเขาไฟลูกดังกล่าวพ่นลาวาร้อนเมื่อเช้าวันพุธ (14 ส.ค.)
อากัส วิโบโว โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย (BNPB) ระบุว่าภูเขาไฟเมราปีพ่นลาวาร้อนสูงถึง 950 เมตร กระจายไปถึงบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำเกนดอล ซึ่งไหลผ่านชายแดนจังหวัดชวากลางและจังหวัดยอกยาการ์ตา เมื่อเวลา 04.52 ตามเวลาจาการ์ตา ลาวาร้อนปะทุจากปากปล่องภูเขาไฟนาน 95 วินาที โดยปากปล่องภูเขาไฟเปิดกว้างถึง 50 มิลลิเมตร สูงสุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
ภูเขาไฟเมราปีแสดงสัญญาณเตือนถึงการปะทุตลอดหลายวันที่ผ่านมา โดยเมื่อวันเสาร์ (10 ส.ค.) พื้นที่รอบภูเขาไฟเกิดการสั่นสะเทือนในระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันถึง 10 ครั้ง ภูเขาไฟเมราปีถูกกำหนดสถานะการเตือนภัยอยู่ในระดับ 2 จากทั้งหมด 5 ระดับ ซึ่งเป็นระดับการเตือนภัยสูงสุด
อากัสกล่าวในแถลงการณ์ โดยระบุถึงคำสั่งห้ามประชาชนเข้าไปทำกิจกรรมในพื้นที่เสี่ยงภัยหลังการปะทุครั้งล่าสุดว่า “แนะนำให้งดกิจกรรมปีนเขาทุกรูปแบบ ยกเว้นกิจกรรมเกี่ยวกับการวิจัยและการบรรเทาทุกข์ นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนไปยังผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ให้ระมัดระวังการปะทุหรือการสั่นสะเทือนของภูเขาไฟที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น”
ทั้งนี้ เหตุการณ์ปะทุของภูเขาไฟเมราปีที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2010 คร่าชีวิตผู้คนไป 353 ราย และทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนกว่า 350,000 คนออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ









