“มองตาก็เข้าใจ” ‘เซ้นต์ภูม’ กับเคมีเคใจ ที่เข้ากันได้แบบลงตัว

“มองตาก็เข้าใจ” ‘เซ้นต์ภูม’ กับเคมีเคใจ ที่เข้ากันได้แบบลงตัว 

บันเทิง

“แค่เรามองตากัน อะไร (ที่ยาก) ก็ง่ายไปหมด” คือความในใจจากเซ้นต์และภูมที่มีต่อกันและกัน 

เมื่อพูดถึงซีรีส์วาย สิ่งหนึ่งที่ผู้ชมให้ความสำคัญไม่แพ้พล็อตเรื่อง คือ ‘เคมีของนักแสดงนำ’ และหนึ่งในคู่จิ้นหน้าใหม่ที่กำลังถูกจับตามองในขณะนี้ คือ ‘เซ้นต์ ศุภพงษ์’ และ ‘ภูม ณัฐภาสน์’ 

แม้ทั้งคู่จะมาจากพื้นเพและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เซ้นต์ผู้คร่ำหวอดในวงการซีรีส์วาย กับภูมที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกการแสดงเต็มตัว แต่เมื่ออยู่ในฉากเดียวกัน ทั้งคู่กลับสามารถส่งพลังและจังหวะอารมณ์ให้กันอย่างเป็นธรรมชาติ จนเคมีที่เกิดขึ้นกลายเป็นจุดแข็งสำคัญของเรื่อง 

กับซีรีส์ ‘หวานใจผู้ใหญ่จอม’ ซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ผสมกลิ่นอายลูกทุ่ง ที่นำเสนอเรื่องราวความรักในพื้นที่ชนบท เติมซอฟต์พาวเวอร์และวัฒนธรรมไทยในอีกมุมมอง แม้จะออนแอร์ไปได้แค่ 4 ตอน ก็ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี ด้วยเคมีที่เข้ากันอย่างน่ารัก และเนื้อเรื่องที่ดูเพลิน สนุก ครบรส

งานนี้ทั้ง เซ้นต์ และ ภูม จะมาพูดคุยถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำ การทำความเข้าใจตัวละคร ตลอดจนการสร้างเคมีในการแสดงร่วมกัน รวมถึงเหตุการณ์เบื้องหลังที่น่าสนใจซึ่งผู้ชมอาจไม่เคยทราบมาก่อน โดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจในการถ่ายทอดอารมณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านเรื่องราวของตัวละครในเรื่อง

Q : ‘เซ้นต์’ กับความท้าทายของบทบาท ‘ผู้ใหญ่จอม’

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ความจริงแล้ว ‘ผู้ใหญ่จอม’ มีความใกล้เคียงกับเซ้นต์นะครับ แเต่อย่างแรกผมเองต้องเข้าใจธรรมชาติของความเป็นหนึ่งคนที่ทำเพื่อชุมชนมากๆ ซึ่ง ผู้ใหญ่จอม จะมีจังหวะการพูดที่ทำให้คนคิดอย่างรอบคอบ ความจริงตัวผู้ใหญ่จอม ไม่ได้มีอะไร แค่เป็นคนตรงๆ 

เพราะ ผู้ใหญ่จอม เป็นคนปากแข็ง รักก็ไม่ค่อยพูด ปากไม่ตรงกับใจพอสมควร เลยเป็นผมที่ต้องทำการบ้านว่าทำยังไงที่จะต้อง ‘ดูรักนะ’ เวลาแสดงออก ดูรัก ดูเป็นห่วง แต่จะต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยหน้าที่การงานของผมเป็นผู้ใหญ่บ้าน และมีหน้าที่ต้องดูแลโยธิน ทำให้เขาต้องไม่วอกแวกับเรื่องความรัก

Q : ‘ภูม’ กับความท้าทายในบทบาท ‘โยธิน’ บทนำเรื่องแรก

ภูม ณัฐภาสน์ : มีความสุขครับ ได้เล่นคู่กับพี่เซ้นต์ ต้นแบบของผมที่เคยมองตั้งแต่เด็ก ถือเป็นความฝันอย่างหนึ่งของผมที่ได้มาเป็นนักแสดงนำ เพราะว่าผมฝันอยู่แล้วว่าสักวันเราอยากจะขึ้นมาเป็นนักแสดงนำ ดีใจครับที่ได้มาเป็นนักแสดงนำเรื่องนี้ คือภูมได้มีโอกาสอ่านนิยายเรื่องนี้ ก็รู้สึกชอบมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พอได้มีโอกาสมาเล่น เหมือนฝันเลยครับ ทำให้ผมเอ็นจอยกับเรื่องนี้มากๆ

แต่สำหรับความท้าทาย ผมให้เรื่อง คอมเมดี้ ครับ ‘การเล่นตลกให้คนตลก’ สำหรับผมค่อนข้างยากเหมือนกัน เพราะตัวผมเองรู้มุกที่จะเล่นมาก่อนเเล้ว ผมจะถ่ายทอดอย่างไรให้คนที่ดูตลกไปด้วยกัน ซึ่งตรงนี้ท้าทายมากครับ

Q : หลังได้รับบท ‘โยธิน’ ภูมคิดว่าตัวเองมีการพัฒนาในเรื่องไหนบ้าง

ภูม ณัฐภาสน์ : สำหรับตัวผมเลยคือความรับผิดชอบครับ การรับผิดชอบต่องาน การเรียนด้วยครับ เพราะผมก็ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วย ต้องจัดสรรเวลาให้ดี แล้วก็เรื่องการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิมครับ รู้สึกเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เริ่มเรียนรู้ว่า ‘อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ’ ก็ต้องรู้เยอะมากขึ้น อีกอย่างหนึ่งคือการพัฒนาเรื่องด้านการแสดงครับ รู้สึกว่ามันทำให้เราเข้าใจในเรื่องการแสดงมากขึ้นจากเมื่อก่อนมากๆ ครับ

Q : แล้วถ้า ‘ภูม’ มีเงื่อนไขการเล่นมือถือ 2 ชั่วโมง แบบ ‘โยธิน’ จะทำอย่างไร 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ไม่ได้ครับ ผมตอบให้ได้เลย ไม่ได้ครับ (หัวเราะ) 

ภูม ณัฐภาสน์ : ทำได้ครับ (หัวเราะ) 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ถ้าไม่ได้ทำงานอยู่ แล้วให้น้องภูมอยู่นิ่งๆ น้องภูมมีเวลาว่าง ไม่น่าได้ครับ (ยิ้ม)

ภูม ณัฐภาสน์ : แต่เมื่อก่อนตอนเด็ก พ่อแม่ผมจะไม่ค่อยให้จับโทรศัพท์เลย 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ตอนนี้ครับ (หัวเราะ) 

ภูม ณัฐภาสน์ : ผมจะมีวันที่ไม่เล่นโซเชียลเลย หรือเล่นน้อยมาก หยิบมาแค่เช็กๆ แล้วก็วาง เพราะผมจะทำอย่างอื่นไปด้วย อย่างเวลาไปกินข้าวหรือไปคาเฟ่กับเพื่อน จะจับโทรศัพท์น้อยมาก เพราะผมจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนด้วย หรือจะเป็นมุมที่ผมอยู่คนเดียว เวลาอยู่คนเดียวก็จะอ่านหนังสือครับ ไม่ค่อยจับโทรศัพท์อยู่แล้ว ถ้าวันไหนที่เรารู้สึกต้องการอยู่กับตัวเอง 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : เวลาอยู่ด้วยกันผมยังไม่เคยเห็นน้องภูมวางโทรศัพท์เลยครับ (หัวเราะ) 

ภูม ณัฐภาสน์ : ถ้าผมอยู่คนเดียวก็จะไม่ค่อยเล่นครับ แต่ถ้าเราอยู่กับคนอื่นก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เลยหยิบโทรศัพท์มาเล่นครับ 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ที่ผมรู้สึกว่าน้องภูมติดโทรศัพท์มาก เพราะเคยมีภาพที่ผมเห็นคือ น้องภูมถือโทรศัพท์อยู่แล้วเหมือนกับเขาหลับ ในขณะที่เขาหลับ มือเขาก็ไถอยู่ที่หน้าจออยู่ตลอด

ภูม ณัฐภาสน์ : ไม่ คือผมกำลังหาเพลงฟัง 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ไม่ ตอนนั้นเปิด IG อยู่นะ (หัวเราะ) 

ภูม ณัฐภาสน์ : ผมฟังเพลงสั้นๆ จาก TikTok คือผมเป็นคนฟังเพลงนานไม่ได้ ชอบฟังเพลงแบบสั้นๆ ซึ่งได้หลายเพลงเลย ฟังแค่ท่อนฮุกครับ (หัวเราะ)

Q : อะไรคือเสน่ห์ของ ‘ผู้ใหญ่จอม’ และ ‘โยธินตัวแสบ’ ที่แตกต่างไปจากเรื่องอื่น 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ไม่แตกต่างเลยครับ ความเป็นซีรีส์ทั้ง BL และ GL หรือว่าเป็นชายหญิงก็ตาม ทุกอย่างเหมือนกันเลย ผมว่าความแตกต่างอยู่ที่เสน่ห์ของเรื่องนั้นว่าเขาอยากจะทำเสนออะไร อย่างเรื่องนี้ทุกคนจะได้เห็นภาพของความรักที่เกิดขึ้นจากหนุ่มที่อยู่กรุงเทพฯ 

แล้วไม่เชื่อว่าต่างจังหวัดมีเสน่ห์ จนเขาได้ไปตกหลุมรัก และดันไปหลงรักคนที่พาเขาไป หรือรวมไปถึงฉากเลิฟซีน หรือมุมมองความสวยงามของต่างจังหวัด มีสอดแทรกไว้เยอะมากครับ ซึ่งแฟนๆ จะได้เห็นในซีรีส์เรื่องนี้ครับ 

Q : แม้ตัวละครดูจะห่างไกลกับชีวิตทั้งคู่พอสมควร แต่มีมุมไหนที่ได้เรียนรู้บ้างไหม

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ทุกมุมมองเลยครับ แต่ถ้าถามห่างไกลไหม จริงๆ ก็ไม่ได้ห่างไกลมากครับ เพราะว่าเราก็ทําค่ายอาสาประจำกันอยู่แล้ว รู้สึกว่าไม่ได้ไกลกับผมมากครับ ส่วนน้องภูมิเองก็ใกล้ครับ 

ภูม ณัฐภาสน์ : ของผมเรียกว่าเป็นบ้านเกิดเลยครับ เพราะตอนเด็กๆ วิถีชีวิตที่เราได้เห็นในเรื่อง ภูม เคยทำมาหมดแล้วครับ ก็เลยรู้สึกว่าเราได้ย้อนวัย

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : วิถีชีวิตผมอาจจะไม่ได้เท่าน้องภูม ที่ผ่านมาผมอาจจะมีความไกลหน่อย (หัวเราะ) แต่ผมได้ทำค่ายอาสาอย่างที่บอกครับ จริงๆ ผมก็เป็นเด็กต่างจังหวัดนะ แต่อยู่ในตัวเมือง เลยไม่ค่อยมีโมเมนต์อย่างขี่ควาย ส่วนใหญ่จังหวัดผมจะมีโมเมนต์ อยู่แต่สวนทุเรียน อยู่ในสวนมังคุด สวนเงาะมากกว่า 

ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะพอสมควรครับ ข้อหนึ่งเลยคือผมเข้าใจผู้ใหญ่บ้านมากๆ พอรีเสิร์ชตอนเล่นเรื่องนี้ จึงเข้าใจว่าผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ให้ที่แท้จริง เพราะผู้ใหญ่บ้านจริงๆ แทบจะไม่มีเงินเดือนเลยครับ มีแต่เป็นเงินตอบแทนที่เขาจัดการมา แล้วเงินก็หมดไปกับงานอีเวนท์ต่างๆ อยู่แล้ว นอกนั้นผู้ใหญ่บ้านเขาทำทุกอย่างด้วยใจเพื่ออยากจะช่วยชุมชนจริงๆ

Q : อะไรคือเคมีหรือซิกเนเจอร์ของความเป็นคู่ของเรา

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : เราทั้งคู่เป็นคนที่มองกันก็รู้ใจกันพอสมควร 

ภูม ณัฐภาสน์ : มองกันก็รู้ว่าอยากกินอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : คือไม่รู้ว่ามุมคนนอกมองเคมีเรายังไง แต่เราทั้งคู่มองว่าการมีกันและกัน แค่เรามองตากัน  

ภูม ณัฐภาสน์ : อะไรก็ง่ายไปหมดครับ 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : อย่างในเรื่องการแสดง เราแค่มองกันแล้วไม่ต้องพูดเลย แต่สื่อแล้ว ก็เข้าใจกัน 

ภูม ณัฐภาสน์ : เรื่องการกิน การนอน การนั่ง ผมจะรู้ว่าเขาจะชอบนั่งแบบนี้ มุมนี้ คือผมรู้หมดเลยครับ โดยที่เราทั้งคู่ไม่ต้องมาบอกกันเลย

Q : ช่วงนี้ซีรีส์ BL หรือ GL บูมมากๆ สำหรับทั้งคู่มีมุมมองยังไงบ้าง

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ผมดีใจมากครับ ผมคือรุ่นบุกเบิก BL หรือ GL ผมบุกเบิกทั้งเป็นผู้สร้างและการเป็นนักแสดง BL ผมรู้สึกดีมากๆ ครับ 

อย่างที่ผมให้สัมภาษณ์ตลอดว่าเราอยู่ในยุคที่ไม่ได้รับการยอมรับ ไม่ได้อยู่ในยุคที่มีกระแส หรือตลาดกระแสที่เขาสนใจเพียงแค่เท่านี้ แต่ยุคนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น การยอมรับมากขึ้น ผมแอบรู้สึกว่าดีใจนะ ที่สิ่งนี้เกิดความเท่าเทียมมากขึ้น มีคนเห็นมากขึ้น 

อย่างเช่น สมัยก่อนช่วงเวลา 20:30 น. ก็ถือเป็น Prime Time (ออกอากาศ) ละครทั่วไป แต่เดี๋ยวนี้ทาง Workpoint หรือแม้แต่ช่องอื่นๆ ก็มีซีรีส์ BL หรือ GL ออกอากาศในช่วงเวลา Prime Time เช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะกลายมาเป็นละครหลังข่าวในช่องหลัก ผมรู้สึกดีใจนะที่สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว

ภูม ณัฐภาสน์ : ในมุมมองของภูมรู้สึกดีครับ เพราะแสดงให้เห็นว่าคนเปิดรับมากขึ้น และให้ความสนใจเยอะมากขึ้นจากชาวต่างชาติด้วย ทำให้ซีรีส์ในบ้านเรากลายเป็น soft power และยกระดับมากขึ้น นักแสดงซีรีส์วายหลายๆ คน ทั้ง BL และ GL ได้ไปร่วมงานระดับโลก อย่าง พี่ฟรีน-สโรชา ก็ไปมิลาน ซีรีส์วายของเราผลักดันให้นักแสดงไปในระดับแนวหน้า ระดับโลกได้ 

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีนักแสดงที่มีมูลค่าสื่อติดท็อป เป็นระดับ TOP 5 หรือ TOP 3 ด้วยซ้ำ ที่เราเห็นกันในระดับโลกนะครับ ซึ่งตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว 

Q : ฝากอะไรถึงแฟนๆ สักนิดนึง

เซ้นต์ ศุภพงษ์ : ขอบคุณทุกคนครับที่อยู่ข้างๆ ทั้งเซ้นต์และภูมมาตลอดตั้งแต่จุดเริ่มต้น เรากังวลพอสมควรว่าจุดๆ หนึ่งที่เราบอกทุกคนว่าเราเล่นซีรีส์ด้วยกัน ทุกคนจะโอเคไหม หรือ ไม่โอเค จะมีความสุขไหม แต่หลายคนให้การตอบรับดีมากๆ รู้สึกแฮปปี้มากๆ ที่เราสองคนได้มาเล่นคู่กัน ก็ขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่อยู่ข้างๆ เราซัพพอร์ตเรา 

ภูม ณัฐภาสน์ : ก็ขอฝากซีรีส์ครับ มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับ โยธิน และผู้ใหญ่จอม ในเส้นทางความรักจะเป็นยังไง แล้วจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคหรือวิกฤตอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นในเรื่องต่อจากนี้ ว่าเขาต้องเจออะไรกันบ้าง แล้วสองคนนี้จะลงเอยกันอย่างไร

จะจบ สวยหรือไม่สวยก็ อยากให้ทุกคนรอติดตามนะครับ สามารถรับชมได้ช่อง Workpoint เวลา 21.30 น. ทุกวันศุกร์นะครับ แล้วก็สามารถรับชมได้ที่ช่อง YouTube IDOL Factory ด้วย ในแบบ Uncut เวลา 22.30 น. ครับ

TODAY PLAYWriterTODAY PLAY
workpointTODAY PLAY for ONLINE ONLY | วาไรตี้เพื่อคุณ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง