ผู้เชี่ยวชาญองค์การสหประชาชาติให้ความเห็นว่า พฤติกรรมของกองทัพเมียนมาที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร จนมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 70 คนแล้ว อาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ขณะที่หลายฝ่ายกังวลสถานการณ์อาจตึงเครียดขึ้น หลังกองทัพเมียนมากล่าวหานางอองซาน ซูจีรับสินบน
วันที่ 12 มีนาคม 2564 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายโทมัส แอนดรูว์ส ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ให้ความเห็นต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า ในตอนนี้เมียนมากำลังถูกปกครองด้วยระบอบที่โหดเหี้ยมและผิดกฎหมาย
นายแอนดรูว์สยังระบุด้วยว่า มีหลักฐานจำนวนมากขึ้นที่ชี้ว่ากองทัพเมียนมามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เช่นการฆาตกรรม การบังคับให้สูญหาย การข่มขู่คุกคาม และการซ้อมทรมาน เป็นต้น ซึ่งการกระทำเหล่านี้ถูกสั่งการอย่างเป็นระบบจากนายทหารระดับสูง รวมถึงพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา
ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมายังเปิดเผยด้วยว่า จากข้อมูลในตอนนี้ เจ้าหน้าที่เมียนมาใช้กำลังสังหารประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 70 คน นับตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี ขณะเดียวกันยังมีผู้ถูกจับกุมแล้วกว่า 2,000 คน

การออกมาชี้ว่า กองทัพเมียนมามีพฤติกรรมเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่สถานการณ์ในเมียนมายังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) เพียงวันเดียว มีผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารถูกยิงเสียชีวิตถึง 9 คน
ขณะที่หลายฝ่ายกำลังจับตาสถานการณ์ในเมียนมาว่า อาจมีความตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่กองทัพเมียนมาออกมาเปิดเผยว่า นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา ซึ่งถูกกองทัพเมียนมาควบคุมตัวมาตั้งแต่ก่อรัฐประหาร มีความผิดฐานรับเงินสินบนมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท และทองคำอีก 11 กิโลกรัม ระหว่างดำรงตำแหน่ง ซึ่งนี่ถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงที่สุดที่เกิดกับนางซูจี นับตั้งแต่มีการรัฐประหารเป็นต้นมา
ที่ผ่านมา ทางการเมียนมาถูกตั้งข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญา และเรื่องดังกล่าวถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมาตั้งแต่ก่อนรัฐประหารแล้ว โดยนางอองซาน ซูจี เคยมีบทบาทเป็นผู้แก้ต่างให้กับกองทัพเมียนมาต่อศาลด้วย










