นาซาเผยงานวิจัยชิ้นใหม่ คาดอาจมีดาวเคราะห์อย่างน้อย 300 ล้านดวงในกาแลคซี่ทางช้างเผือกที่สามารถไปมีชีวิตอยู่ได้ ชี้เป็นก้าวเริ่มต้นของการไปมีชีวิตบนดาวดวงอื่นนอกโลก
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) เปิดเผยงานวิจัยชิ้นใหม่ที่ประเมินว่า ในกาแลคซี่ทางช้างเผือก ซึ่งโลกของเราตั้งอยู่ น่าจะมีดาวเคราะห์อย่างน้อย 300 ล้านดวงที่มีสภาพเอื้อให้ไปอยู่อาศัยได้ โดยดาวเคราะห์ที่มีแนวโน้มเช่นนี้ที่อยู่ใกล้กับโลกมนุษย์มากที่สุด น่าจะอยู่ห่างออกไปราว 20 ปีแสง
งานวิจัยชิ้นนี้ใช้การศึกษาจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ ซึ่งเก็บข้อมูลเอาไว้หลายปี ก่อนจะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อปี 2561 เพราะเชื้อเพลิงหมด ขณะเดียวกันยังร่วมทำงานกับทีมนักวิจัยด้านอวกาศที่ประเทศเดนมาร์ก บราซิล ไปจนถึงข้อมูลที่ได้จากภารกิจกายอา ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) ด้วย

โดยวิธีการศึกษา ทีมนักวิทยาศาสตร์จะเริ่มจากการค่อยๆ ค้นหาดวงดาวบนกาแลคซี่ทางช้างเผือกที่มีอยู่ราว 100-400 ล้านดวง ว่าดวงไหนที่มีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์ จากนั้นก็ไปตามหาดาวบริวารของดวงดาวนั้นๆ เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการมีชีวิตอยู่ผ่านปัจจัยต่างๆ เช่นเรื่องสภาพอากาศ ชั้นบรรยากาศและปฏิกิริยาเคมีภายในดวงดาว
แม้จะเป็นการค้นพบครั้งใหม่ แต่ทีมนักวิทยาศาสตร์เจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้ยอมรับว่า นี่เป็นเพียงก้าวแรกของการศึกษาความเป็นไปได้ในการมีชีวิตนอกโลก เพราะยังขาดปัจจัยสำคัญที่ต้องศึกษา เช่นการที่ต้องยืนยันให้ได้ว่า มีดาวเคราะห์ดวงใดบ้างที่อาจมีน้ำอยู่










