กฎใหม่เตรียมเข้มงวดผู้ขึ้นยอด Everest ต้องมีหลักฐานว่าฟิต ค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็น 1 ล้านบาท

กฎใหม่เตรียมเข้มงวดผู้ขึ้นยอด Everest ต้องมีหลักฐานว่าฟิต ค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็น 1 ล้านบาท

ผู้ที่ต้องการจะปีนขึ้นยอดเขาเอเวอร์เรสต์อาจต้องพบกฎใหม่ หลังจากปีนี้มีนักปีนเขาเสียชีวิตหรือสูญหายมากถึง 11 คน โดยข้อเสนอใหม่ระบุว่าผู้ที่จะปีนเอเวอเรสต์ต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าเป็นนักปีนเขาที่ชำนาญ เคยพิชิตยอดเขาในเนปาลที่สูงอย่างน้อย 6,500 เมตรมาก่อน รวมถึงยังอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงถึง 1 ล้านบาทในการปีนหนึ่งครั้งด้วย

ตลอดปี 2019 ที่ผ่านมานี้ มีนักปีนเขาเสียชีวิตหรือสูญหายขณะขึ้นยอดเขาเอเวอร์เรสต์แล้วถึง 11 คน โดย 9 คนเสียชีวิตบนเขาด้านประเทศเนปาล ในขณะที่อีก 2 คนเสียชีวิตบนเขาด้านทิเบต  ทั้งนี้ในจำนวนนี้มีทั้งสิ้น 4 คนที่ถูกระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากการที่มีนักปีนเขาพลุกพล่านเกินไป

ด้วยเหตุนี้ทางคณะกรรมการที่ควบคุมกฎเกี่ยวกับการปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปีนเขา และองค์กรปีนเขาท้องถิ่นของเนปาล จึงได้นำเสนอกฎเกณฑ์ด้านการปีนเอเวอร์เรสต์ใหม่ เพื่อให้การปีนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

โดยกฎเกณฑ์ที่คณะกรรมการนำเสนอใหม่ก็เช่น การกำหนดให้ผู้ที่จะปีนยอดเอเวอร์เรสต์ต้องเคยขึ้นยอดเขาอื่นในเนปาลที่ความสูงเกิน 6,500 เมตรสำเร็จมาแล้ว ต้องมีใบรับรองทางการแพทย์ด้านความฟิต และยังต้องมีไกด์ที่มีประสบการณ์นำทางไปด้วย

นอกจากนี้ เกณฑ์ที่คณะกรรมการนำเสนอใหม่ดังกล่าว ยังได้เสนอให้เก็บค่าธรรมเนียมแก่ผู้ที่จะปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์เป็นเงินกว่า 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1 ล้านบาทด้วย

กฎเกณฑ์ที่ถูกนำเสนอใหม่เหล่านี้ ถูกเสนอขึ้นหลังจากมีผู้คนจำนวนมากวิจารณ์กฎเดิมของเนปาล ที่กำหนดให้ใครก็ตามที่จ่ายเงินค่าธรรมเนียม 11,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 350,000 บาท) สามารถปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ และทำให้ฤดูกาลปีนเขาล่าสุดในปีนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลเนปาลได้ออกใบอนุญาตปีนเอเวอร์เรสต์มากเป็นประวัติการณ์ถึง 381 ใบ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง