NSO ผู้พัฒนาสปายแวร์ ‘เพกาซัส’ ประกาศปรับองค์กรครั้งใหญ่ ซีอีโอลาออก-ปลดพนักงาน 100 คน

NSO ผู้พัฒนาสปายแวร์ ‘เพกาซัส’ ประกาศปรับองค์กรครั้งใหญ่ ซีอีโอลาออก-ปลดพนักงาน 100 คน

บริษัทเจ้าของสปายแวร์เพกาซัสทำการปรับโครงสร้างองค์กร ท่ามกลางข่าวฉาวเรื่องมีส่วนช่วยรัฐบาลหลายประเทศรวมถึงไทย นำไปใช้เล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ชาเลฟ ฮูลิโอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ NSO Group บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอิสราเอล ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว พร้อมกับประกาศปลดพนักงานออก 100 คน จากทั้งหมด 700 คน โดยให้เหตุผลว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในเฟสต่อไป

ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทอย่างสปายแวร์เพกาซัส กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก หลังจากที่มีข่าวว่าถูกนำไปใช้ในการสอดแนมนักข่าว นักเคลื่อนไหว และนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย 

โดยคุณสมบัติสปายแวร์ตัวนี้ หากเข้าไปฝังในโทรศัพท์มือถือของเป้าหมายได้แล้ว จะสามารถเข้าควบคุม เจาะข้อมูล และเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ทั้งหมดเหมือนกับเจ้าของเครื่อง ซึ่งทาง NSO อ้างว่าเป็นเครื่องมือที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ต่อต้านการก่อการร้าย และขายให้กับหน่วยงานของรัฐบาลเท่านั้น

แม้สปายแวร์เพกาซัสจะมีการนำมาใช้งานตั้งแต่ปี 2011 แล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มมาเป็นที่สนใจจากการที่มีสื่อออกมาเปิดหลักฐานเมื่อก.ค. ปีก่อนว่า เพกาซัสถูกนำมาใช้ในการล้วงข้อมูลบุคคลใกล้ชิดของ จามาล คาช็อกกี นักข่าวที่ถูกสังหารภายในสถานทูตซาอุดีอาระเบียในตุรกี 

จากนั้นในเดือนพ.ย. รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำ NSO Group จนทำให้ ไอแซค เบนเบนิสตี ซีอีโอที่เพิ่งขึ้นมารับตำแหน่งได้ 2 สัปดาห์ประกาศลาออกจากตำแหน่งไป และนายฮูลิโอที่เป็นอดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทต้องกลับมารับตำแหน่งซีอีโอต่อ

นับตั้งแต่นั้นมา ทาง NSO ก็ยังเผชิญกับข่าวในแง่ลบอย่างต่อเนื่อง อย่างในประเทศไทยก็มีรายงานว่านักวิชาการและนักกิจกรรมหลายราย ได้รับจดหมายเตือนจาก Apple เมื่อช่วงปลายปีก่อน (2021) ว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายการโจมตี จากความพยายามในการเข้าควบคุม iPhone ของเป้าหมาย

และในช่วงเดือนที่แล้วนี้เอง (ก.ค. 2022) โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ร่วมด้วย Citizen Lab มหาวิทยาลัยโตรอนโตประเทศแคนาดา Digital Reach ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  และแอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนล ได้นำเสนอข้อค้นพบในรายงานการใช้เพกาซัสในประเทศไทย ที่ระบุว่า มีการใช้สปายแวร์ดังกล่าวสอดส่องประชาชนอย่างน้อย 29 ราย ระหว่างปี 2020 ถึง ปลายปี 2021 

ขณะที่ Calcalist เว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยีของอิสราเอลอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับ NSO ว่า กระทรวงกลาโหมของอิสราเอลตัดสินใจลดจำนวนใบอนุญาตในการขายสิทธิ์การใช้งานสปายแวร์ลง ซึ่งโดยปกติแล้ว การที่บริษัทต่างๆ จะให้บริการรัฐบาลต่างชาติในลักษณะนี้ จะต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงกลาโหมอิสราเอลเสียก่อน

ด้วยเหตุนี้ ทำให้บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งประสบกับภาวะล้มละลาย และจะมีอีกหลายบริษัทที่ประสบภาวะเดียวกันตามไปหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายในเร็วๆ นี้ ซึ่ง NSO Group ก็เป็นอีกหนึ่งในบริษัทที่เสี่ยงต่อการล้มละลายเช่นกัน 

 

ที่มา: https://www.nytimes.com/2022/08/21/business/nso-chief-executive-spyware.html

https://www.calcalistech.com/ctechnews/article/hjb0095yyi

https://www.theguardian.com/world/2021/nov/11/nso-group-ceo-designate-quits-after-us-blacklists-spyware-firm

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง