ราคาเป็นมิตรได้มากขึ้น ถ้าดีมานด์เยอะ! ‘OATSIDE’ ชิงตลาดนมทางเลือก

ราคาเป็นมิตรได้มากขึ้น ถ้าดีมานด์เยอะ! ‘OATSIDE’ ชิงตลาดนมทางเลือก

เทรนด์รักสุขภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ตลาดอาหารสุขภาพเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่ม Plant-based Food (อาหารจากพืช) มีมูลค่าสูงถึง 4.5 หมื่นล้าน และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละถึง 1 ล้านล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้านี้ 

หนึ่งในเทรนด์ Plant-based Food ตอนนี้ที่ถูกจับตาว่าจะเติบโตแรงไม่แพ้กัน คือกลุ่ม ‘นมทางเลือก’ อาทิ นมโอ๊ต นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง เพราะด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ที่แพ้น้ำตาลแลคโตสในนมวัวมีมากถึง 80​% ดื่มแล้วจะท้องเสีย ทำให้นมทางเลือกคือทางออกของการดื่มนมวัว

‘ซินดี้ ลิน’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของโอ๊ตไซด์ (OATSIDE) แบรนด์นมโอ๊ตจากสิงคโปร์ เล่าว่า รสนิยมการบริโภคนมของคนไทย และสิงคโปร์เป็นแบบเดียวกัน คือ เน้นที่รสชาติ หวาน มัน กลมกล่อม และปัจจุบันการเติบโตของนมโอ๊ตในประเทศไทยมีมากกว่านมทางเลือกชนิดอื่นๆ เพราะนมโอ๊ตรับประทานได้ง่ายกว่านมทางเลือกประเภทอื่น 

ในแง่ของการทำการตลาดและการรับรู้ถึงแบรนด์จึงค่อนข้างจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะกับช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีคนเรียกร้องให้แบรนด์ผลิตไซส์เล็กเพื่อให้เข้าถึงง่าย และในอนาคตอาจจะเพิ่มรสชาติใหม่ๆ ที่เหมาะกับกลุ่มคนเอเชียโดยเฉพาะอีกด้วย เราจึงได้ขยายฐานผู้บริโภคในทุกกลุ่มหวังชิงส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีก

ตลอด 2 ปีมานี้ โอ๊ตไซด์ ได้ส่งผลิตภัณฑ์ OATSIDE ขนาด 1 ลิตร รุกตลาดเครื่องดื่มและอาหารเพื่อสุขภาพไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มธุรกิจร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ อาทิ ร้านชานม GAGA ร้านฉันจะกินชาไทยทุกวัน ร้านคาเฟอเมซอนและอื่นๆ เป็นอย่างดี ด้วยยอดขากว่า 90% ที่มาจากร้านธุรกิจ 

ทั้งนี้ แบรนด์ต้องการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ในกลุ่มรีเทล ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่เน้นบริโภคเครื่องดื่มและอาหารที่สะดวก-รวดเร็ว รวมถึงใส่ใจและเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น จึงเปิดตัว OATSIDE Mini ขนาด 200 มิลลิลิตร ขึ้นมาเพิ่มใน 3 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล ช็อกโกแลต และกาแฟ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ต้องการการพกพาที่สะดวก และหาซื้อได้ง่ายขึ้นตามร้านสะดวกซื้อนี้

[ ขยายการผลิตที่อินโดแล้ว ในอนาคตอาจจะขยายโรงงาน ]

‘ซินดี้ ลิน’ กล่าวว่า ในอนาคตอาจจะเพิ่มรสชาติใหม่ๆ ที่เหมาะกับกลุ่มคนเอเชียโดยเฉพาะอีกด้วย โดยตอนนี้ OATSIDE ส่งออกไปยัง 18 ประเทศทั่วโลก เน้นกลุ่มประเทศเอเชียเป็นหลัก และมีโรงงานหลักอยู่ที่อินโดนีเซีย แต่ด้วยดีมานด์ความต้องการของตลาดที่มากขึ้นทำให้แบรนด์ต้องขยายการผลิต และกำลังมองหาฐานการผลิตใหม่ๆ 

ส่วนในเรื่องของราคานมทางเลือกนั้นต้องยอมรับว่ามีราคาสูงกว่านมวัว อย่างไรก็ตามทางแบรนด์มองว่าหากดีมานด์ผู้บริโภคนมทางเลือกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นราคาของนมทางเลือกที่เป็นมิตรกว่านี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง
AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง