มาตรการพื้นฐานของสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้ที่จะพบกับประธานาธิบดี ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 เสียก่อน ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอจึงเข้ารับการตรวจและผลออกมาเป็นบวก แต่พอตรวจอีกครั้งด้วยวิธีอื่น ผลกลับกลายเป็นลบ 2 ครั้ง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่านายไมค์ เดอไวน์ ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอวัย 73 ปี ออกมาประกาศว่าเขาเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยการตรวจแอนติเจน และได้รับแจ้งว่าผลการตรวจเป็นบวก ก่อนที่จะเข้าพบกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพียงไม่กี่ชั่วโมง
As part of the standard protocol to greet President Trump on the tarmac in Cleveland, I took a COVID test. I tested positive. I have no symptoms at this time. I’m following protocol and will quarantine at home for the next 14 days.
— Mike DeWine (@MikeDeWine) August 6, 2020
นายเดอไวน์กล่าวหลังจากทราบผลว่า รู้สึกประหลาดใจ ตัวเขารู้สึกปกติดี ไม่รู้ว่ารับเชื้อมาได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็ค่อนข้างระมัดระวังเวลาจะพบใครก็ตาม และมักจะใส่หน้ากากเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม นายเดอไวน์เข้ารับการตรวจอีกครั้งด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีที่มีความแม่นยำสูงกว่า แต่จำเป็นต้องมีการส่งตัวอย่างไปตรวจในห้องแล็บ คราวนี้ผลกลับออกมาเป็นลบถึง 2 ครั้ง
I tested negative in second test that I took today for COVID-19. First Lady Fran DeWine and staff members have also all tested negative for COVID-19. Thanks to all for the well wishes.
— Mike DeWine (@MikeDeWine) August 7, 2020
แม้เจ้าตัวจะค่อนข้างมั่นใจว่าตนเองไม่มีเชื้อหลังจากผลตรวจครั้งที่สองออกมา แต่ทางรัฐโอไฮโอประกาศว่าจะมีการตรวจเชื้อผู้ว่าการรัฐอีกครั้งในอีก 2 วันข้างหน้า
ผลการตรวจเชื้อที่ขัดแย้งกันในครั้งนี้ทำให้เกิดการวิจารณ์ว่า การตรวจเชื้อแบบแอนติเจนควรจะนำมาใช้ในกรณีใดบ้าง เพราะถึงแม้ว่าจะได้ผลตรวจภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่มีรายงานว่าชุดตรวจแอนติเจนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในสหรัฐฯ มีโอกาสที่ผลจะออกมาเป็นลบทั้งๆ ที่มีเชื้อ (False Negative) ราวๆ 15-20%
หมายเหตุ: ภาพประกอบเป็นการพบกันของทั้งคู่เมื่อเดือนมี.ค. 2019










