ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ดอกเบี้ยที่ขยับขึ้นหรือลงมีผลต่อเงินในกระเป๋าของทุกคนมากกว่านี้คิด และยังส่งผลกระทบต่อชีวิตคนทั่วไปในหลายด้าน โดยเฉพาะการกู้เงิน การออม และลงทุน
ซึ่งถ้ากำลังมีคำถามว่าแล้วทำไมจะต้องค่อยมาปรับมาจูนดอกเบี้ยให้อยู่ในลู่ในทางตลอดเวลา ก็เพราะ ‘ดอกเบี้ย’ ที่เหมาะสมจะช่วยควบคุมเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่สามารถขยายตัวได้ดี
อย่างเวลาที่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็เพราะต้องการลดเงินเฟ้อ คุมเศรษฐกิจไม่ให้ร้อนแรงเกินไป ส่วนเวลาที่ปรับลดดอกเบี้ยก็เพื่อที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ให้ซบเซาหรือมีคนว่างงานเยอะ
และถ้ามองในมุมคนธรรมดาทั่วไป การปรับขึ้นหรือลดดอกเบี้ยแบบนี้กระทบอะไรกับเราบ้าง? ซึ่งบางคนก็อาจจะสนใจข่าวนี้และคอยติดตามอยู่เสมอ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้สนใจและรู้สึกว่าไกลตัวเกินไป แต่จริงๆ แล้วดอกเบี้ยมันแฟงอยู่ในหลายอย่างในชีวิตประจำวันของเราเลยนะ
[ ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ]
ดอกเบี้ยเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด และเราเจอมันแทบทุกวันโดยไม่รู้ตัว! ตัวอย่างดอกเบี้ยที่เราพบในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้าน-คอนโด ผ่อนรถ บัตรเครดิตยิ่งถ้าจ่ายไม่ตรงโดนดอกเบี้ยสูงถึง 20-25% ต่อปี รวมถึงการผ่อนสินค้าบริการ และราคาสินค้าต่างๆ เพราะถ้าดอกเบี้ยสูง ต้นทุนขึ้น ราคาของก็แพงขึ้นด้วย
โดย Today Bizview ขออธิบายผลกระทบของดอกเบี้ยต่อการกู้-ออม-ลงทุน รวมถึงค่าครองชีพ ให้เข้าใจง่ายขึ้น แบบนี้
1.ผลต่อคนที่กู้เงิน : ถ้าดอกเบี้ยขึ้นคนกู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ส่วนดอกเบี้ยลง คนกู้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลงทำให้กู้ได้ง่ายขึ้น
2.ผลต่อคนที่ออมเงิน : ดอกเบี้ยขึ้น การฝากเงินจะได้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ได้ผลตอบแทนจากเงินออมมากขึ้น แต่ดอกเบี้ยลง ดอกเบี้ยเงินฝากจะต่ำ อาจต้องหาทางลงทุนอย่างอื่นแทน
3.ผลต่อการลงทุน : ดอกเบี้ยขึ้น หุ้นอาจปรับตัวลง เพราะต้นทุนของธุรกิจสูงขึ้น และเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไปฝากธนาคาร แต่ถ้าดอกเบี้ยลง หุ้นจะมีแนวโน้มดีขึ้น เพราะต้นทุนกู้เงินต่ำลง ธุรกิจขยายตัวได้ง่ายขึ้น
4.ผลต่อค่าครองชีพ : ดอกเบี้ยขึ้นคนกู้เงินลำบากขึ้น เศรษฐกิจชะลอตัว อาจมีผลต่อการจ้างงาน ขณะที่ดอกเบี้ยลง เศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้น แต่ถ้าต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อ
สรุปง่ายๆ ก็คือดอกเบี้ยขึ้น คนออมได้เปรียบ คนกู้ลำบาก แต่ถ้าดอกเบี้ยลง คนกู้ได้เปรียบ ส่วนคนออมต้องหาทางลงทุนเพิ่มเติม
[ ใครๆ ก็ชอบให้ลดดอกเบี้ย ]
หลายคนมักจะชอบให้ดอกเบี้ยลดลง เพราะมันดูเหมือนจะเป็นข่าวดีในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีหนี้สิน การลดดอกเบี้ยจะทำให้เรามีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้นอย่างที่ได้อธิบายไปแล้ว
นอกจากนั้น ดอกเบี้ยต่ำยังช่วยกระตุ้นให้ผู้คนใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโต แน่นอนว่าดอกเบี้ยสูงที่ข้าวของราครแพงคนเก็บเงินไม่ค่อยใช้จ่าย
แต่หากลดดอกเบี้ยลงมากเกินไป ก็อาจเกิดปัญหาบางอย่าง เช่น ภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากการที่เงินในระบบหมุนเวียนมากขึ้น อาจทำให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น รวมถึงการเกิดภาวะฟองสบู่ เพราะถ้าการกู้ยืมง่ายเกินไป อาจทำให้เกิดฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนที่เสี่ยงเกินไป
[ ควรบริหารเงินยังไง? ]
การบริหารเงินให้เหมาะกับสภาพดอกเบี้ย เป็นสิ่งสำคัญ เพราะดอกเบี้ยมีผลต่อทั้งรายรับ รายจ่าย และการลงทุนของเรา วิธีจัดการเงินที่ดีควรคำนึงถึง 3 ด้านคือ ออม กู้ และลงทุน
โดยในช่วงที่ดอกเบี้ยขึ้น สิ่งที่ควรทำคือการลดหนี้ ไม่ก่อหนี้เพิ่มและออมให้มากขึ้น รวมถึงลงทุนอย่างระมัดระวัง
ส่วนถ้าดอกเบี้ยลง ถือเป็นโอกาสที่ดีให้ใช้โอกาสลดภาระหนี้ เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำจะทำให้เราจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่ถูกลง
แต่อย่างไรก็ตามในทุกช่วงเวลาไม่ว่าดอกเบี้ยจะถูกหรือแพง จำเป็นที่จะต้องมีเงินสำรอง บริหารจัดการหนี้ให้ดี และวางแผนลงทุนให้เหมาะสม ซึ่งกฎพื้นฐานของการบริหารเงินคือการมีเงินออมอย่างน้อย 3-6 เดือนของเงินเดือน ไม่สร้างหนี้และลงทุนอย่างสม่ำเสมอ










