สหรัฐฯ ส่งตัว ‘อเลฮันโดร โตเลโด’ อดีตประธานาธิบดีเปรู ที่ลี้ภัยมาอยู่แคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 2016 กลับไปเข้ากระบวนการทางกฎหมายที่บ้านเกิด หลังถูกตัดสินจำคุก 18 เดือน ในคดีฟอกเงินและทุจริตระหว่างดำรงตำแหน่ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีอเลฮันโดร โตเลโด เดินทางถึงกรุงลิมา เมืองหลวงของเปรู เมื่อวันอาทิตย์ (23 เม.ย.) หลังถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐฯ เพื่อมาดำเนินคดีในข้อหารับสินบนหลายล้านดอลลาร์
โดยโตเลโด วัย 77 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรูในช่วงปี 2001-2006 ถูกตั้งข้อหารับสินบนมูลค่า 35 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,203 ล้านบาท) จาก โอเดเบรชต์ (Odebrecht) ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของบราซิล เพื่อแลกกับสัมปทานโครงการก่อสร้างทางด่วนในเปรู
การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากทางการสหรัฐฯ ได้รับการร้องขอจากรัฐบาลเปรู ให้ส่งตัวอดีตผู้นำ ซึ่งในตอนแรกพำนักอยู่ในสหรัฐฯ ในสถานะผู้ลี้ภัยตั้งแต่ปี 2016 ก่อนจะถูกรัฐบาลเปรูประกาศให้เป็น ผู้ร้ายหนีคดี ในปี 2018 กลับไปดำเนินคดีในเปรู
โตเลโด ถูกทางการสหรัฐฯ จับกุมเมื่อปี 2019 ที่บ้านพักในเมนโลพาร์ค แคลิฟอร์เนีย หลังจากนั้น ได้ถูกนำตัวไปควบคุมในเรือนจำซานตา ริตา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากซานฟรานซิสโกไปทางตะวันออกราว 60 กิโลเมตร โดยเขาได้พยายามสู้คดี ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด เพื่อเลี่ยงการถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ
แต่ในที่สุดศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธคำร้อง ทำให้โตเลโดต้องถูกเนรเทศกลับไปเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายที่บ้านเกิด
กระทรวงยุติธรรมเปรูออกแถลงการณ์ว่า อดีตประธานาธิบดีอเลฮันโดร โตเลโด ถูกศาลตัดสินให้ควบคุมตัวเป็นเวลา 18 เดือน ในเรือนจำบาร์บาดิโย ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่คุมขังอดีตประธานาธิบดีอีก 2 คน คือ อัลแบร์โต ฟูจิโมริ ซึ่งถูกส่งตัวข้ามแดนมาจากชิลีเพื่อรับโทษจำคุก 25 ปี ในคดีละเมิดสิทธิมนุษยชน และเปโดร กัสติโย กำลังอยู่ระหว่างการควบคุมตัวเพื่อพิจารณาคดีในข้อหากบฏจากความพยายามที่จะยุบสภาในปี 2022
นอกจากนี้ โตเลโดยังเป็นหนึ่งใน 4 อดีตผู้นำเปรูที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีฉาว การทุจริตครั้งใหญ่ของ โอเดเบรชต์ ที่สั่นสะเทือนการเมืองในเปรูอย่างหนัก ทำให้มีอดีตประธานาธิบดีถึง 4 คนถูกดำเนินคดี รวมถึง โอยันตา อุมาลา และ เปโดร ปาโบล คูซินสกี ขณะที่อดีตประธานาธิบดีอลัน การ์เซีย ซึ่งถูกตั้งข้อหาในคดีเดียวกันนี้ ได้ตัดสินใจใช้ปืนปลิดชีพตัวเองเสียชีวิตเมื่อปี 2019 ขณะถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมที่บ้านพัก
ที่มา AP, Al Jazeera, Reuters










